‘Ketut Liyer’ บุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วโลก เขายังเป็นเหมือนจิตวิญญาณและเป็นที่มาของหนังสือ-ภาพยนตร์ดัง “Eat, Pray, Love”
“Eat, Pray, Love” คือหนังสือขายดีติดอันดับโลก เขียนจากชีวิตจริงของ Elizabeth Gilbert ที่ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ฮอลีวู้ด แสดงนำโดย Julia Roberts … โดยเรื่องราวชีวิตของอลิซาเบธ สาวชาวอเมริกา ที่เหมือนจะสวยงาม มีสามีที่ดี การงานที่มั่นคง แต่เธอเลือกที่จะหันหลังให้กับชีวิตที่สวยหรูแบบที่หลายคนวาดฝันไว้ เพื่อออกเดินทางตามหาความสุขที่แท้จริง เธอใช้ชีวิตลั่นลาที่อิตาลี, เข้าคอล์สฝึกสมาธิที่อินเดีย และมาพบชีวิตที่สมดุลในบาหลี
Elizabeth Gilbert ผู้เขียนหนังสือ Eat, Pray, Love
ไนท์ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ต่ำกว่า 5 รอบ เพราะเรื่องราวและบรรยากาศในหนัง ทำให้เราอยากลุกออกไปเดินทางซะเดียวนั้น มันช่างน่าสนุก น่าค้นหา และเป็นแรงบันดาลใจให้กับเราได้อย่างดี แน่นอนว่า เมื่อไนท์ได้เดินทางไปบาหลีครั้งแรก นอกจากจะไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแล้ว การได้พบกับ ‘เคตุต เลเยอร์’ ถือว่าเป็นสิ่งที่ฝันไว้ครับ สำหรับเคตุตนั้น เขาคือ หมอพื้นบ้าน มีความรู้ด้านสมุนไพร การดูลายมือ และเป็นนักบำบัดอีกด้วยครับ
เมื่อไนท์เดินทางถึงบาหลี สิ่งแรกที่ถามคนขับแท๊กซี่(เหมา 5 วัน)ว่า ถ้าอยากจะไปเจอเคตุตในหนัง “Eat, Pray, Love” จะมีเวลาไปเจอไหม?
คำตอบที่ได้คือ “ไม่แน่ใจว่าเขาจะอยู่บ้างหรือเปล่า ต้องเสี่ยงดวงดู”
ได้ยินแบบนี้ แทบจะตัดใจแล้ว … จนวันที่ 4 ของการท่องเที่ยว เราเดินทางผ่าน Ubud ในตอนเช้า พี่คนขับก็ถามว่า
“อยากไปเจอเคตุตไหม? บ้านเขาอยู่ในซอยข้างหน้านี้เอง”
ไนท์ได้ยินแบบนี้ก็ต้องตอบ Say Yes! ซิครับ พอรถจอดหน้าบ้าน จะเห็นป้าย “Ketut Liyer’s House & Family” ชัดเจน ซึ่งดูจากสภาพบ้านแล้ว ถือว่ามีฐานะพอสมควรเลยครับ อีกสิ่งที่แฟนภาพยนตร์ควรจะรู้คือ บ้านเคตุตใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำในภาพยนตร์ด้วย โดยตกแต่งเพิ่มดอกไม้สร้างความสวยงามเพิ่มเติมครับ
เคตุตออกมาต้อนรับเราด้วยท่าทีที่ยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นกันเอง เราก็รู้สึกดีใจ เพราะบุคคลนี้เป็นเหมือนผู้นำความคิดให้กับ Elizabeth Gilbert จนเกิดเป็นหนังสือที่อ่านกันทั่วโลก ถึงแม้ว่า ในภาพยนตร์ เคตุตจะไม่ได้แสดงเอง เพราะช่วงนั้นแกป่วย แต่ถือว่าทางทีมงานผู้สร้างหนังได้หานักแสดงได้เหมาะสมมากๆครับ
หลังจากที่เจอกัน เคตุตชวนไปนั่ง นำหนังสือและโปสการ์ดที่ Elizabeth ส่งให้มาให้พวกเราดู พลอยทำให้เรารู้สึกอิ่มใจไปด้วย และยังรู้สึกถึงความภาคภูมิใจของชายชราคนนึงที่เขาสามารถสร้างความสุขให้กับใครหลายๆคนผ่านตัวอักษรในหนังสือเล่มนี้
ด้วยเวลาที่ไนท์มีไม่มาก เราพูดคุยกันนิดหน่อย และได้มอบเงินบริจาคให้เคตุตไปทำบุญ … ถึง ณ จุดนี้ หลายคนเคยถามผมว่า ให้เคตุตดูลายมือให้หรือไม่? เขาบอกว่ายังไงบ้าง? บอกเลยว่า ไม่ได้ดูอะไรเลยครับ เพราะว่าที่เรารีบและเวลาน้อย เอาไว้คราวหน้าได้มาเที่ยวบาหลี จะมาเยี่ยมเคตุตอีกรอบนะครับ
สำหรับใครที่อยากจะไปเจอเคตุตตัวจริง สามารถอ่านรายละเอียดที่ได้ที่ http://www.liyerhouse.com/
ใครที่อ่านบล็อกนี้แล้ว ยังรู้สึกไม่เต็มอิ่ม ไนท์ได้ทำ Travel Vlog เอาไว้ คลิกดูได้เลยครับ
ติดตามเพจผมได้ที่
https://www.facebook.com/NightPhoominOfficial
Instagram: @nightphoomin
Twitter: @nightphoomin
