ไปมาแล้ว … เขาคิชฌกูฏ

image

ทุกๆต้นปี ถ้าหากถามพุทธศาสนิกชนผู้ชอบแสวงบุญแล้วล่ะก็ ทุกคนคงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ปีนี้ไปเขาคิชฌกูฏมาหรือยัง?” … สำหรับผมแล้วรู้จักรอยพระพุทธบาท จ.จันทบุรี มาประมาณ 5 ปีแล้ว ตั้งใจจะไปมาหลายครั้งและพลาดแทบทุกครั้ง ปีนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีได้ไปสัมผัสประสบการณ์ที่หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ถ้าได้ขึ้นไปอธิษฐานรอยพระพุทธบาท เขาคิชฌกูฏ มักจะสำเร็จอย่างที่ตั้งใจ” และไม่แปลกใจเลยทำไมบางคนแทบจะมาที่นี้ทุกปี

ถ้าใครจะไปแนะนำไปวันธรรมดาจะดีกว่า เพราะถ้าคุณไปวันเสาร์อาทิตย์รับรองได้ว่าคุณต้องเจอคณะทัวร์รถบัสทั่วประเทศแน่นอนครับ … หลังจากตั้งใจจะไปมาหลายปี ปีนี้ถือว่าได้ทำอย่างตั้งใจจริงๆครับ ผมและชาวคณะตกลงจะออกเดินทางโดยรถตู้เหมาคันวิ่งจากกรุงเทพในช่วงกลางคืน ถึงเขาคิชฌกูฏในช่วงกลางดึกและจะกลับลงมาในช่วงเช้า เราเลือกเวลานี้เพื่อหลีกเลี่ยงสภาพอากาศร้อนในตอนกลางวันนั้นเองครับ

[ใครที่จะมาโดยรถสาธารณะแบบลุยๆ คุณสามารถขึ้นรถบัสประจำทางกรุงเทพฯ-จันทบรี ที่สถานีขนส่งเอกมัย ราคา 189 บาท เมื่อคุณถึงที่สถานี้ขนส่งจ.จันทบุรีจะมีรถ 2 แถววิ่งไปยังเขาคิชฌกูฏค่อยให้บริการอยู่ ราคาไปกี่สิบบาทครับ ซึ่งมีตลอดทั้งวัน แต่ช่วงกลางคืนอาจจะหาอยากหน่อยครับ]

รถตู้พาเราออกจากกรุงเทพฯเดินทางมาตามถ.สุขุมวิทพอเข้าเขตเมืองจันทบุรีถึงสี่แยกเขาไร่ยาให้เลี้ยวซ้าย เดินทางต่อไปตามป้ายเขาอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏเราก็จะถึงวัดพลวงซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการแสวงบุญครั้งนี้อย่างแท้จริงครับ

image

image

บริเวณจุดขึ้นเขาโดยรอบจะมีของขายมากมาย ดอกไม้ธูปเทียนหินพลอยเพื่อนำไปสักการะรอยพระพุทธบาททางด้านบน คุณจะเตรียมมาจากที่บ้านหรือมาซื้อที่นี้ก็ตามสะดวกครับ แต่สำหรับคนที่เคยมาที่นี้มักจะเตรียมมาจากบ้าน ธูปเทียนเป็นกำๆ ดอกไม้คนละถุง ทองคำเปลวหลายสิบแผ่น … นอกจากจะมีของขายแล้ว ยังเป็นที่ที่เราต้องซื้อตั๋ว 50 บาทเพื่อขึ้นรถ 4 wheel ระยะทาง 8 กม. แบ่งเป็น 2 ช่วง ระยะเวลาช่วงละประมาณ 10-15 นาที เพราะฉะนั้นเราต้องจ่ายค่ารถขึ้น-ลงคนละ 200 บาทครับ

image

image

image

ผ่าน 8 กม.ของทางขึ้นเขาอันลาดชันที่ต้องอาศัยฝีมือคนขับที่ชำนาญทางขับขึ้นเท่านั้น และอีกสิ่งหนึ่งที่น่าสังเกตุคือ รถปิคอัพขับเคลื่อน 4 ล้อ หรือรถ 4 wheel มักจะเป็นรถป้ายแดงหลากหลายยี่ห้อเหมือนออกรถเพื่อมาใช้ในงานนี้  พอจบงานก็คงขายเข้าเต๊นท์รถต่อไปทำนองนั้น

พอรถปิคอัพพาเรามาถึงลานกว้างมีวงเวียนประดิษฐานพระสิวลีหลายองค์ ก็บอกให้เรารู้ว่าสิ่งสุดทางเดินรถแค่นี้ เพราะอีก 1.2 กม.ข้างหน้าคือการเดินเท้าขึ้นไปสู่ที่หมายครับ โดยพื้นที่ตรงนี้มีของขายเหมือนด้านล่าง คุณสามารถซื้อของที่คุณอาจจะนึกไม่ออกก่อนขึ้นมา แถมคุณยังสามารถแลกเงินเป็นแบงค์ย่อยๆเพื่อทำบุญตามรายทางอีกด้วยครับ

image

image

ระยะทางเดินขึ้นสู่รอยพระพุทธบาท เขาคิชฌกูฏระยะทาง 1.2 กม. บางคนฟังแล้วดูชิวๆ แต่สำหรับสภาพที่เป็นทางลาดสลับทางชันขึ้นเขาแล้ว ขอบอกว่าไม่ชิวเอาซะเลย ถ้าคุณไม่วอร์มร่างกายมาดี คุณอาจมีสิทธิ์ล้าท้อขึ้นมาทันทีก็เป็นได้ แต่ถ้าคุณมองไปข้างหน้ารวมกันศรัทธาจริตดั้นดนมาเพื่อกราบไหว้ขอพรแล้วล่ะก็ จะทำให้คุณเดินไปอย่างมุ่งมั่น เหนื่อยก็พัก ไหวก็เดินต่อ … ขนาดมากลางคืนยังบรรยายได้ขนาดนี้ ถ้ามากลางวันรับรองชาวคณะได้ปาดเหงื่อเป็นถังๆแน่นอนครับ

อีก 1 วัฒนธรรมที่ทำตามๆกันมาของที่นี้ก็คือ การโปรยดอกดาวเหลือง เรียกว่าโปรยกันตลอดทาง 1.2 กม.ก็ว่าได้ แต่ถ้าใครได้มาอ่านบทความนี้ ผมอยากแนะนำว่า “อย่าทำ” จะดีกว่าครับ เพราะถึงฤดูฝนน้ำไหลลงเขาจะเป็นสีเหลืองและมีกลิ่น พระสงฆ์องค์เจ้าไม่สามารถนำน้ำมาใช้ได้ครับ ผมว่าเดินตรงขึ้นไปบริเวณรอยพระบาทเลยจะดีกว่าครับ … พอผ่านไปครึ่งทางคุณจะเจอกับประตูสวรรค์เป็นบริเวณให้คุณนั่งพักจิบชาเบาๆ ให้คุณรู้สึกสบายตัวเตรียมพร้อมสู่การเดินขึ้นเขาระยะสุดท้ายครับ

image

เพียงแค่อึดใจเดียวคุณจะเดินทางมาถึงลานกว้างบริเวณประดิษฐานพระเจ้าตากสินมหาราช คุณจะเห็นผู้คนนั่งพักเหนื่อย บางคนก็นั่งกินมาม่า-โจ๊ก ผมรับรองว่า ร้อยละ 80 ที่ขึ้นมาถึงที่นี้ได้กลิ่นมาม่าแล้วต้องน้ำลายไหลทุกคน … ส่วนใครที่ไม่กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป-โจ๊กสำเร็จรูป คุณอาจจะเตรียมอาหารจำพวกข้าวเหนียวหมูทอด-ไก่ทอด รวมถึงน้ำดื่มติดตัวมาด้วยก็ได้ครับ เพราะคุณต้องใช้เวลาอยู่ในบริเวณนี้รวมขึ้นลงประมาณ 4-6 ชั่วโมงครับ

image

image

จากบริเวณนี้เดินไปอีกเค่ 100 เมตรคุณจะเป็นหินทรงบาตรคว่ำขนาดใหญ่ตั้งอยู่ซึ่งบ่งบอกว่าคุณได้มาถึงยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คุณตั้งใจเดินทางมาถึงเรียบร้อยแล้ว สำหรับรอยพระพุทธบาท เขาคิชฌกูฏ ถือว่าเป็นรอยพระพุทธบาทที่อยู่สูงที่สุดของประเทศไทยราวๆ 1 กม.จากระดับน้ำทะเลครับ

image

image

แน่นอนครับกิจกรรมไฮไลท์ของเราก็คือการกราบนมัสการขอพรรอยพระพุทธบาท โดยจะมีพระนำสวดมนต์เป็นรอบๆครับ พอสวดจบเราต้องฝ่าวงล้อมของผู้คนเพื่อนำดอกไม้ธูปเทียนทองหินพลอยไปว่างบนรอบพระพุทธบาท ผมแนะนำให้คุณอธิษฐานสิ่งที่ตั้งใจขอพรให้เสร็จสรรพครับ เพราะหลายคนนั่งขอกันข้างๆรอยพระพุทธบาท คนที่อยู่ด้านหลังก็ต้องมายืนรอกันจนแน่นทำให้ช้ากันไปใหญ่ครับ และอีกเรื่องคือ อย่าเอาเงินใส่ไปบนรอยพระพุทธบาท เพราะเจ้าหน้าที่จะเสียเวลาคัดแยกเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้แสวงบุญครับ ถ้าคุณอยากทำบุญเอาเงินไปใส่ในตู้ที่ทางวัดจัดเตรียมไว้ให้จะสะดวกแก่คุณและวัดมากกว่าครับ

ถ้าใครมีเดินทางมาถึงที่นี้ช่วงตี 4 ตี 5 เป็นเวลาพระทำวัตรเช้า คนจะนั่งกันเต็มลานเพื่อร่วมสวดมนต์และฟังพระเทศน์ไปด้วยครับ ถ้าเป็นยุคก่อนๆจะเป็นหลวงพ่อเขียน เกจิอาจารย์ผู้บุกเบิกเขาคิชฌกูฏเป็นผู้เทศน์และให้พร แต่ท่านได้มรณภาพไปเมื่อปีก่อน ผู้ทำหน้าที่ต่อก็คือลูกศิษย์ของท่านครับ

image

บริเวณรอยพระพุทธบาทยังไม่ใช่จุดสูงที่สุดของเขาลูกนี้ คุณต้องเดินไปอีกราวๆกิโลเมตรกว่าๆ เพื่อไปยังสถานที่ชื่อว่า “ผ้าแดง” … ชาวคณะที่มาด้วยกันเคยไปมาหมดแล้วเลยขอบายนั่งพักอยู่ที่นี้ ส่วนผมไหนๆก็มาทั้งทีต้องไปพิสูจน์กันเขาสักหน่อยว่าเป็นอย่างไร

2 ข้างทางเดินขึ้นผ้าแดงนั้นไม่ต่างจาก 1.2 กม.ที่ผ่านมาเลย ทางลาดสลับชั้นดินขรุขระและมีสิงศักดิ์สิทธิ์พระพุทธรูปองค์เทพเทวดาให้เราสักการะขอพรทำบุญตลอดทาง ส่วนใครหิวก็แวะดื่มน้ำซื้อชากาแฟหรือจะกินมาม่า-โจ๊กก็ได้ตามใจคุณครับ

image

image

ระหว่างทางก่อนจะมาถึงยังผ้าแดง ผมสังเกตุเห็น เด็กวัย 5 ขวบจนถึงคนแก่คนเฒ่าเดินขึ้นที่ผ้าแดงแห่งนี้หลายคน ทำให้รู้สึกอิ่มใจไปกับเขาด้วยจริงๆครับ … บริเวณผ้าแดงเป็นจุดสูงที่สุด เมื่อขึ้นมาถึงทุกคนจะเขียนชื่อตัวเองพร้อมคำอธิษฐานลงบนผ้าแดงผืนยาว จารึกชื่อไว้ว่าเราได้มาพิชิตจุดที่สูงที่สุดของเขาคิชฌกูฏแล้วครับ

ดูจากเวลาตอนนี้ก็ตี 5 แล้วถึงเวลาที่ชาวคณะต้องลงจากเขาคิชฌกูฏแล้วครับ เวลานี้อากาศดีมากๆ เย็นสบาย เห็นพระจันทร์อยู่ไกลลิบๆเพื่อรอให้พระอาทิตย์ขึ้น ส่วนผู้คนก็หลั่งไหลมาไม่ขาดสาย ร้านค้าที่นี้เปิด 24 ชม.อย่างกับ 7-11 เลยทีเดียวครับ …  การเดินลงเขาคิชฌกูฏในช่วงเช้าตรู่ถือว่าเป็นเรื่องที่เพลิดเพลินมาก หลังจากที่มีจิตใจเป็นกุศลจากผลบุญที่ร่วมทำมา ยังได้ชมวิวทิวทัศน์ของภูเขาจันทบุรีสลับเมฆหมอกที่ลอยต่ำอยู่ในระดับสายตา ถ้าไม่บอกว่า ชื่นใจสุดๆ ก็ไม่รู้จะพูดว่ายังไงครับ

image

image

เราใช้เวลาไม่นานเพื่อมาถึงบริเวณขึ้นรถปิคอัพลงเขาคิชกูฏ แน่นอนว่าฟ้าสว่างแล้ว เราเห็นถนนหนทางลาดชันของเขาคิชฌกูฏได้ชัดเจนกว่าตอนกลางคืนครับ ทำให้รู้ว่าหวาดเสียวแค่นี้ … (ลองชมคลิปดูนะครับ)

จากเวลาที่ผมเขียน ณ ตอนนี้ อีกไม่ถึงเดือน เพราะเขาคิชฌกูฏจะเปิดให้ขึ้นวันสุดท้ายคือ 11 เม.ย.นี้ ใครที่จะไปแสวงบุญก็ขออนุโมทนาบุญให้ได้สิ่งที่หวังตั้งใจไว้ สุขสวัสดดีตลอดทั้งปีนะครับ

ไนท์ ภูมินทร์



I'm the creator and producer of a tv show. Also, I work on social media marketing for artists, products and special projects. I love writing- photography and enjoy sharing them on my social media. I like the hit music, good movies, exercise and traveling. This is my blog. I hope you will enjoy it.