ถ้าเรามีงบตั๋วเครื่องบินไปกลับไม่เกิน 2,000 บาท จะไปไหนดีนะ?

ประโยคข้างต้นเป็นสิ่งที่ไนท์จำกัดตัวเองในการเดินทางสู่จุดหมายปลายทางในการเที่ยวครั้งนี้ (ตอนแรกจะไปเกาะหลีเป๊ะ แต่โดนดับฝันโดยพายุฝนช่วงต้นเดือนมิ.ย.) สรุปสุดท้ายก็ไปจบกับการไปประเทศมาเลเซีย(ไปจบซะไกลกว่าที่คิด) ครั้งแรกตะลุย 3 เมืองฮิต ปีนัง, มะละกา, กัวลาลัมเปอร์ !!!

เราเริ่มต้นจากการซื้อตั๋วเครื่องบินไปลงที่หาดใหญ่ 790 บาท เพื่อต่อรถไปปีนัง, มะละกา, กัวลาลัมเปอร์ ส่วนการบินกลับกรุงเทพฯราคาประมาณ 1,100 บาท (รวมตั๋วเครื่องบินไม่เกิน 2,000 บาท แต่ไม่รวมกระเป๋าที่ซื้อเพิ่มนะ)

ทริปนี้ใช้เวลา 5 วัน 4 คืน แต่ถ้าใครมีเวลาหลวมๆผมแนะนำเป็น 6 วัน 5 คืน จะเต็มอิ่มกว่านี้ แต่ก็อย่างว่าผมมีเวลาหยุดยาวไม่มาก บางทีต้องอาศัยการขโมยเที่ยวเอา แบบไปโดยตัดสินใจเดี๋ยวนั้น อะไรทำนองนั้น … เอาเป็นว่ารายละเอียดต่างๆจะบอกต่อไปเรื่อยๆ เราเดินทางไปด้วยกันเลยดีกว่า 🙂

วันที่ 1 หาดใหญ่-เกาะปีนัง

วันที่ 2 เกาะปีนัง-มะละกา

วันที่ 3 มะละกา

วันที่ 4 มะละกา-กัวลาลัมเปอร์

วันที่ 5 กัวลาลัมเปอร์-กรุงเทพฯ

เราเริ่มจากการเดินทางโดย Air Asia ไฟล์ทเช้าที่สุด เพื่อเดินทางถึงหาดใหญ่ในเวลา 8 โมงเช้า แล้วไปขึ้นรถตู้ไปเกาะปีนังให้ทันรอบ 9 โมงครึ่ง … เมื่อถึงสนามบินหาดใหญ่แล้ว เรานั่งรถตู้แท๊กซี่ไปลงที่โรงแรมอโลฮา ราคา 100 บาท (เข้าเมืองหาดใหญ่ทุกทีราคานี้ จะไปไหนบอกเขาเลย)

รถตู้แท๊กซี่วนๆส่งผู้โดยสารคนอื่น ส่งเราเป็นคนสุดท้าย เราลงตรงโรงแรมอโลฮา ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นที่ตั้งของ K.S.T. Travel รถตู้ที่จะพาเราไปเกาะปีนัง ที่นี้ยังบริการรถตู้เดินทางไปที่อื่นๆทั้งไทยและมาเลเซียอีกด้วยครับ เรามาถึงเกือบๆ 9 โมง รถออก 9 โมงครี่ง ราคา 450 บาท พี่เขารับเงินแล้วกรอกเอกสารต.ม.ให้เราเรียบร้อยเลย และเพื่อไม่ให้เสียเวลา เรากินข้าวเช้าร้านข้างๆกันเลย

การเดินทางจากหาดใหญ่สู่เกาะปีนังระยะทางประมาณ 220 กม. ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ถ้าฝนตกก็อาจจะนานกว่านั้น บางคนสงสัยว่าระยะทางแค่นี้ทำไมนานจัง เพราะเราต้องหยุดจอดที่ด่านข้ามแดนอ.สะเดา แล้วยังต้องเปลี่ยนรถตู้อีกคันด้วยเป็นพี่คนขับชาวมาเลย์ และระยะทางบางช่วงที่มาเลย์เป็นทางเล็กๆเลยต้องขับช้าเล็กน้อย แต่ก็เป็นระยะทางสั้นๆครับ

บางคนสงสัยว่าทำไมไม่นั่งเครื่องบินมาลงปีนัง ขอบอกเลยว่าค่าตั๋วเที่ยวเดียวก็ปาไป 1,700 บาท กว่าๆละ (ผิดกับโจทย์ที่เราตั้งไว้) อีกอย่างคือ Air Asia มีไฟล์ทเดียว ถึงเกาะปีนังเย็นๆ  หมายความว่า เราจะเสียเวลาเที่ยวไปหนึ่งวันแล้ว … ฉะนั้นการมารถตู้จากหาดใหญ่ เราได้ประสบการณ์และยังมีลุ้นถึงปีนังตอนบ่ายอีกด้วย

ระหว่างเดินทางพี่รถตู้แวะจุดพักรถ มีอาหารมากมาย และเราเข้าห้องน้ำที่นี้ด้วย ไม่รู้ว่าตรงนี้ชื่ออะไร เพราะว่าตื่นลงมาเข้าห้องน้ำแบบมึนๆ 🙂 จากตรงนี้เวลาอีกประมาณ 2 ชม.ก็ถึงเกาะปีนังแล้วละครับ

แน่นอนว่าเราลุ้นไม่ให้ฝนตก เพื่อจะได้ถึงเกาะปีนังอย่างรวดเร็ว แต่จากภาพก็คงจะรู้แล้วว่าไม่ได้เป็นแบบนั้น เราถึงสะพานปีนัง 1 (ยาว 13.5 กม.) ในเวลาบ่าย 2 แล้ว ซึ่งแปลว่า แผนการท่องเที่ยวของเราอาจจะต้องเปลี่ยนไป ต้องย่อมตัดบางสถานที่ออกไป เพื่อให้ได้เที่ยวแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของปีนังจริงๆ (เพราะเราไม่ได้นอนค้างที่นี้ คืนนี้เราจะนอนบนรถบัสเพื่อไปเมืองมะละกา) … ลืมบอกไปว่า สะพานข้ามไปเกาะปีนังมี 2 แห่ง โดยสะพานปีนัง 2 มีความยาว 24 กม. เพิ่งเปิดใช้พ.ย. 2556 เป็นสะพานข้ามทะเลที่ยาวเป็นอันดับ 2 ในเอเชีย รองจากจีนเลยนะ จากสะพานปีนัง 1 ถ้าเรามองไปด้านซ้ายมือจะเห็นสะพานปีนัง 2 อยู่ไกลๆ (ฝนตกหนัก ไม่สามารถถ่ายภาพให้เห็นได้)

รถตู้มาส่งเราตรงศูนย์การค้าใกล้ตึกคอมตาร์(Komtar) ตึกสูงที่สุดในเกาะปีนัง ถือว่าเป็นศูนย์กลางของที่นี้ ท่ารถเมล์ก็อยู่ตรงนี้ วินรถทัวร์ไปที่ต่างๆในมาเลเชียก็อยู่ที่นี้อีกเช่นกัน สำหรับภารกิจแรกที่เราถึงเมืองปีนังคือ หาบริษัททัวร์เพื่อซื้อตั๋วร์รถบัสเดินทางไปเมืองมะละกาในคืนนี้ เดินทางเวลา 5 ทุ่ม เพื่อไปถึงเมืองมะละกาตอนเช้าพอดี เราเจอบริษัททัวร์ใกล้ๆที่เราลง ตั๋วราคา 50 ริงกิต (ราวๆ 500 บาท) รถออก  5 ทุ่ม ให้เรามารอ 4 ทุ่ม 45 นาที

ภารกิจต่อไปคือ การหาซิมการ์ดแบบเนทซิม มาเที่ยวทั้งที ไม่อัพอะไรเลยก็คงไม่ใช่นะ จะเปิดโรมมิ่งเนทมาแพงๆวันละ 350 บาท ก็ไม่เอานะ … เราเดินหาร้านมือถือในห้างที่เราลงรถมีให้เลือกหลายร้าน หลายเครื่อข่าย สุดท้ายเราเลือก Tune Talk เพราะคนขายแนะนำว่าคลื่นดีกว่ายี่ห้อที่ถูกๆ (เราเชื่อ ฮาฮา…) แล้วเลือกแพคเก็ตแบบ 1.5 GB โทรในมาเลย์ได้ 60 นาที ราคา 38 ริงกิต (ราวๆ 380 บ.)

เนทเท่าไหร่ดีถึงจะพอ ไนท์อยู่ 5 วันใช้ไป 1.3GB ถือว่าคุ้มมากๆ อันนี้อยู่ที่คุณว่าใช้อะไรบ้าง ถ้าอัพรูป Fcaebook, Instagram, Chat line, ส่งรูป บลาบลาบลา ไนท์แนะนำ 1.5 GB แถมโทรได้อีก ยิ่งถ้ามากับเพื่อนหรือมีอะไรก็โทรในมาเลย์ได้สบายๆครับ

กว่าจะฝ่าฝนมาถึงเกาะปีนัง ซื้อตั๋วไปเมืองมะละกา เลือกซื้อซิมอีก มองเวลาก็ปาเข้าไปบ่าย 3 แล้ว ซึ่งหมายความว่า สถานที่เที่ยวที่เราวางแผนเอาไว้อย่าง Penang Hill เพื่อขึ้นไปดูวิวเกาะปีนัง กับวัด Kek Lok Si วันจีนที่เก่าแก่และเป็นวัดพุทธที่ใหญ่ที่สุดของมาเลเชีย … 2 สถานที่สำคัญนี้เราจะไม่ได้ไป เพราะต้องออกไปนอกเมืองอีก ฉะนั้นเราจะเที่ยวกันอยู่ในเมืองแถวๆ George Town และหาของกินอร่อยๆ … เราเริ่มกันที่ป้ายรถเมล์ใต้ตึกคอมตาร์ รถเมล์ที่นี้ขึ้นไม่ยาก เพราะมีไม่กี่สาย ชานชาลาแบ่งสายชัดเจน หลายๆสายไป George Town เหมือนกัน แต่อาจจะวนไปรอบเมืองก่อน

จาก Kontar คุณสามารถเดินไป George Town ได้ไม่ยาก ห่างไป 500-800 ม. ค่อยๆเดินดูตึกราบ้านช่องเก๋ๆก็เพลินดี

“เกาะปีนัง” หรือ รัฐปีนัง ประเทศสหพันธรัฐมาเลเซีย เป็น 1 ใน 13 รัฐของมาเลเชีย ชื่อปีนังแปลว่า ต้นหมาก เนื่องจากสมัยก่อนเกาะแห่งนี้เต็มไปด้วยต้นหมาก ด้วยความโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรม เกาะปีนังได้รับการกล่าวขานว่าเป็น ไข่มุกแห่งตะวันออก และได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลกโดย UNECO เมื่อปี 2008 พร้อมกับเมืองมะละกา

รู้หรือไม่? เกาะปีนัง เคยเป็นเมืองขึ้นของไทย ไทยเรียกเกาะนี้ว่า เกาะหมาก … ที่นี้เองเป็นแผ่นดินแรกที่สยามเสียให้ต่างชาติ โดยเสียให้ประเทศอังกฤษเมื่อปี 2329 ในรัชสมัยรัชกาลที่ 1 

เรื่องราวของเกาะปีนังโดยละเอียด รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวเก๋ๆ ในย่าน George Town อาหารอร่อยๆที่คุณต้องไม่พลาดชิม ไนท์จะมาเขียนในตอนหน้า รับรองใครที่ได้อ่านแล้วต้องอยากมายลเสน่ห์เกาะปีนัง ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และผสมผสานวัฒนธรรมต่างๆได้อย่างลงตัว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ประเทศไทยที่คุณควรมาเยือนครับ … อย่าลืมติดตามกันตอนหน้านะครับ

ติดตามไนท์ได้ที่ Twitter, Facebook, Instagram รวมถึงคลิปท่องเที่ยวใน Youtube โดยค้นหา NightPhoomin