[Review] “The Butler” 2013
ถ้าพูดถึงชื่อผู้กำกับ Lee Daniels แล้วชื่อนี้ไม่เคยทำให้ผิดหวังจริงๆ ถึงผลงานหนังที่ผ่านมาจะเป็นหนังแนวอินดี้ ไม่ว่าจะเป็น Monster’s Ball, Precious, The Paperboy แต่บทหนังและการกำกับที่ยอดเยี่ยม สามารถส่งให้นักแสดงของเขาได้รับรางวัลออสการ์มาแล้วอย่าง Halle Berry และ Mo’Nigue
มาถึงผลงานล่าสุดกับ The Butler ที่สามารถครองใจชาวอเมริกา ทำรายได้อันดับ 1 Boxoffice ถึง 3 สัปดาห์ซ้อน กวาดรายได้ในอเมริกาไปแล้วกว่า 112 ล้านดอลล่าร์ โดยทุนสร้างเพียง 30 ล้านดอลล่าร์เท่านั้น
The Butler ดัดแปลงมาจากชีวิตจริงของ Eugene Allen พ่อบ้านประจำบ้านของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาหลายยุคหลายสมัย ระหว่างปี 1957-1986 เขามีส่วนรู้เห็นเหตุการณ์สำคัญๆในการบริหารปกครองของประธานาธิบดี และเนื้อเรื่องในภาพยนตร์ถ่ายทอดออกมาได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะลำดับเหตุการณ์ที่กระชับ เข้าใจง่าย สามารถทำให้คนดูซาบซึ้งไปกับทุกๆตัวละครและทุกเหตุการณ์ได้จริงๆ
อีกอย่างหนึ่งที่ขอชื่นชมคือ ทีมนักแสดง ที่รวบรวมมาได้เยอะมาก โดยที่หลายๆมาแสดงด้วยใจโดยรับค่าตัวที่ต่ำกว่าปกติ เพื่อให้โปคเจคนี้สำเร็จไปได้ด้วยดี โดยนักแสดงหลักๆอย่าง Forest Whitaker รับบทเป็น เซซิล พ่อบ้านประจำบ้านประธานาธิบดี เขาต้องแสดงเป็นเซซิลที่ค่อยๆแก่ลงๆไปตามยุค สีหน้าท่าทางความคิด ถ่ายทอดออกมาได้ดีมาก และ Oprah Winfrey รับบทภรรยาของเซซิล สลัดภาพเจ้าแม่ทอร์คโชว์ มาเป็นแม่บ้านลั่นลา ขี้เมา แถมยังมีชู้อีกด้วย ถึงแม้เธอจะไม่ได้แสดงภาพยนตร์บ่อยนัก แต่ Orpah ก็แสดงฝีมือระดับออสการ์ได้อย่างดีเยี่ยม สมกับที่แฟนๆรอคอยที่จะได้เห็นเธอบนจอหนังเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีดาราดังๆที่มาร่วมแสดงอย่าง John Cusack, Robin Williams, Mariah Carey, Jane Fonda, Cuba Gooding Jr., Lenny Kravitz, James Marsden เป็นต้น
หนังเรื่องนี้มีความเป็นอเมริกันและอ้างอิงเหตุการณ์สำคัญๆของโลกไว้หลายเหตุการณ์ ถ้าใครมีความรู้ด้านประวัติศาสตร์จะสนุกกับหนังเรื่องนี้มากขึ้น ส่วนใครที่รู้เรื่องอเมริกาไม่มาก ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะบทหนังค่อยข้างกระชับ ทำความเข้าใจเรื่องราวได้ไม่ยากครับ
สำหรับเรื่องนี้ ผมให้ “B”
The Butler เริ่มฉายในไทย 10 ต.ค.นี้