พื้นที่สีเขียวที่ได้รับสมญานามว่า “ปอดแห่งกรุงเทพฯ” … หลายๆรีวิวที่คุณเคยอ่าน พาเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ ส่วนรีวิวของผมนั้น จะพาคุณไปดื่มด่ำ “บางกระเจ้า” กันแบบข้ามคืน
ผมมีเวลาตัดสินใจไม่นานว่า จะไปนอนพักผ่อนที่ไหนดี ขอแบบใกล้กรุงเทพฯ บรรยากาศดี และเป็นที่ที่เรายังไม่เคยไป(นอนค้าง) … คำตอบว่าจบลงที่ “บางกระเจ้า” ผมได้ยินเสียงร่ำลือถึงความดีงามทางธรรมชาติที่สมบูรณ์และวิถีชุมชนที่เรียบง่าย แต่ผมก็ไม่เคยไปสัมผัสด้วยตัวเอง(และผมเชื่อว่า หลายคนที่กำลังอ่านรีวิวนี้ ก็คงไม่เคยเช่นกัน) … ถึงเวลาแล้วที่เราจะไปเปิดประสบการณ์แอบอิงต้นไม้ สูบอากาศบริสุทธิ์ ฟังเสียงนกร้อง และชมแสงไฟนวลๆจากหิ่งห้อยแทนหมู่ดาว (ว้าวๆ)
ไปนอนคืนเดียว จัดกระเป๋าเดินทาง Kamiliant เอาเสื้อไป 5 ชุด … เตรียมพร้อม (ใครสนใจกระเป๋าเดินทางคลิก link ที่ยี่ห้อกระเป๋านะ)
การเดินทาง-การจอดรถ
เช้าวันเสาร์ ผมเริ่มเก็บกระเป๋าเตรียมเสื้อผ้า(เพิ่งซื้อกระเป๋ามาใหม่เอี่ยม ใช้ทริปนี้ครั้งแรก) และข้าวของเครื่องใช้(ไปเที่ยวก็ต้องดูแลตัวเอง ตามคอนเสปนะ) รวมถึงโน๊ตบุ๊คและหนังสือ เอาไว้อ่านอะไรเพลินๆชิลล์ๆ พอสายๆผมขับรถเดินทางไปที่วัดบางนานอก จอดรถที่ลานจอดรถ แล้วลากกระเป๋าข้ามเรือไปอีกฝั่งหนึ่ง จะไปขึ้นที่ท่าวัดบางน้ำผึงนอก … หรือถ้าใครสะดวก อยู่ใกล้ทางฝั่งพระประแดงอยู่แล้ว สามารถนำรถมาจอดที่วัดบางน้ำผึ้งนอก ก็ได้ (สำหรับคนที่จะมานอนค้างนะ เพราะลานจอดรถอื่นในบริเวณนี้จะบริการแบบเช้า-เย็นเท่านั้น)

เรือออกจากท่าวัดบางนานอก
สภาพบนเรือข้ามแม่น้ำมีขนาดใหญ่ สามารถรองรับทั้งคนและรถจักรยานยนต์หลายคัน เริ่มบริการตั้งแต่ตี 5 จนถึง 3 ทุ่ม เรือใช้เวลาข้ามไม่นาน เราก็มาถึงท่าเรือวัดบางน้ำผึ้งนอก เดินออกไปสู่ทางออก จ่ายเงิน 4 บาท เป็นสัญญาณบอกว่า… “ชีวิตอยู่ใกล้ธรรมชาติของคุณได้เริ่มต้นแล้ว” ถ้ามองไปรอบๆจะเห็นบริการเช่ารถจักรยาน เพื่อปั่นบริเวณรอบบางกระเจ้า ซึ่งเป็นกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวมักจะทำเมื่อมาเยือนที่นี่ แต่จุดประสงค์ของผมไม่ใช่แค่มาปั่นจักรยานเท่านั้น แต่ผมมานอนและซึมซับอ็อกซิเจนของกรุงเทพฯให้มากที่สุด แม้จะแค่คืนเดียวก็ตาม

แผนที่ท่องเที่ยวบางกระเจ้า ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

รถจักรยานเช่า เห็นได้ทั่วไปที่บางกระเจ้า ทั้งวัน 50 บาท
วินมอเตอร์ไซค์พาเราลัดเลาะตามถนนเล็กๆที่เข้าไปสู่หมู่บ้านที่ปลูกอยู่บนเสาสูงจากดินชายแลน เพื่อไปส่งยังที่พักของผม “Bangkok Tree House” โรงแรมที่สร้างในคอนเสปการอนุรักษ์ธรรมชาติ สำหรับผู้คนที่เดินทางเข้ามา ไม่ว่าจะเข้าพักหรือแค่แวะมากินอาหาร จะได้สัมผัสกับสถานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยังได้ภาพถ่ายสวยๆไปโพสให้เพื่อนอิจฉาอีกด้วย
หลังจากเช็คอิน เก็บของในห้องพักเรียบร้อย เวลานี้ก็เป็นเวลาบ่ายแล้ว ถึงจะมีเมฆฝนอยู่บ้าง ก็ช่วยบรรเทาอากาศที่ร้อนในตอนกลางวันได้อย่างดี ผมเลือกจักรยานของโรงแรม ขับลัดเลาะตามทางจักรยานเล็กที่แผนที่บอก
เพื่อไปท่องเที่ยวในสถานที่สำคัญๆที่คุณควรจะมา Check-in เมื่อคุณมาเยือนบางกระเจ้า…

จากถนนเล็กๆในชุมชน ก็ออกมาปั่นบนถนนใหญ่
สวนศรีนครเขื่อนชันธ์
ปั่นจักรยานออกจากถนนเล็กๆในหมู่บ้าน สู่ถนนใหญ่ที่มีรถสัญจรปกติ ปั่นเลียบแม่น้ำย้อนขึ้นไปเรื่อยๆ จะมีป้ายบอกเป็นระยะ ปั่นพอเอาเหนื่อยอยู่เหมือนกันกว่าจะถึงสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดและสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ตอนช่วงเย็นๆจะเห็นผู้คนมากมายมาออกกำลังกาย หรือแม้แต่หนุ่มสาวที่มาเที่ยวพลอดรักกัน(น่าหมั่นไส้) รวมถึงมากันเป็นครอบครัว พาเด็กๆมาวิ่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจ ที่นี่มีพื้นที่กว้างขวาง บริเวณตรงกลางเป็นพื้นที่แอ่งน้ำขนาดใหญ่ ถ้าคุณปั่นจักรยานไปด้านในสุดจะพบกับ “หอดูนก” เป็นที่ที่นักท่องเที่ยวมักจะมาหยุดพัก เพื่อถ่ายรูปเก๋ๆในบริเวณนี้ … ส่วนถ้าถามว่ามีนกอยู่ในบริเวณนี้จริงไหม ก็ตอบว่ามี เราจะเห็นนกหน้าตาแปลกๆที่เราไม่เคยเห็นในป่าปูนที่เต็มไปด้วยอาคารในกรุงเทพฯอย่างแน่นอน ความสมบูรณ์ของธรรมชาติและวิถีชีวิตของสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยที่พึ่งพาอาศัยร่มเงาของต้นไม้เป็นที่อยู่อาศัย เป็นอะไรที่เติมเต็มพลังชีวิตในวันพักผ่อนแบบนี้ได้อย่างดี ซึ่งคุณไม่ต้องแปลกใจว่า คุณจะเห็นกระรอก-กระแตวิ่งเล่นตามต้นไม้และเสาไฟอยู่บ่อยๆ

มุมนี้นักท่องเที่ยวหน้าใหม่ จะมาถ่ายกันทุกคน

หอดูนก
พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย
บริเวณหน้าทางเข้าสวนศรีฯ คุณจะมองเห็นพิพิธภัณฑ์ปลากัดไทยได้ชัดเจน เมื่อเข้าไปจะเป็นสวนกว้างๆ มีลานจอดรถอยู่ทางด้านซ้าย และทางด้านขวามือจะเป็นที่ตั้งอาคารที่จัดแสดงปลากัดหลากหลายสี มีคำอธิบายให้เราเข้าใจที่มาที่ไปของปลากัด รวมถึงอธิบายปลากัดชนิดต่างๆอีกด้วย นอกจากนี้ ด้านหน้าอาคาร ยังมีพระเอกของพิพิธภัณฑ์ที่นักท่องเที่ยวแทบทุกคนต้องมาถ่ายรูปคือ “แดง” นกอินทรีย์สีแดงตัวไม่ใหญ่มากนัก เพราะยังไม่โตเต็มที่ เจ้าของเลี้ยงมาตั้งแต่ฟักไข่ ทำให้คุ้นกับคนและเชื่องมาก ใครสนใจอยากถ่ายรูป ให้เงินสมทบทุนเป็นค่าอาหาร คนละ 20 บาท แค่นี้คุณก็ได้ภาพถ่ายเก๋ๆอีก 1 รูปแล้ว (ถ่ายรูปกับนก แล้วจะนกหรือเปล่า อันนี้ผมก็ตอบไม่ได้)

แหล่งเรียนรู้ปลากัด สำหรับคนที่สนใจ

เจ้าแดง พระเอกของที่นี่
Bangkok Tree House
นอกจากที่นี่เป็นโรงแรมที่ดีที่สุดในคุ้งบางกระเจ้าแล้ว(ราคาก็สูงที่สุดด้วย) แต่ถ้าคุณไม่ได้มานอนพักละก็ … นักท่องเที่ยวสามารถแวะมาเที่ยว กินอาหาร ดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ ระหว่างวันได้ บริการตั้งแต่ 10 โมง พอเวลาประมาณ 4 โมงเย็น คนก็จะเริ่มกลับกัน ด้วยการออกแบบและการตกแต่งที่สวยงามเป็นมิตรกับธรรมชาติ ทำให้เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักปั่นต้องแวะมาถ่ายรูปสวยๆ สำหรับผมเลือกนอนพักที่นี่ 1 คืน เลยทำให้มีรูปสวยๆมาฝากกันหลายรูป
(ดูรูปเพิ่มเติ่ม(ไม่ได้โพสในรีวิวนี้)ใน Instagram: http://instagram.com/nightphoomin )

มุม Open Air ให้ได้พักผ่อนชมวิวต้นไม้ของบางกระเจ้า

ท่าน้ำแบบนี้ ออกมานั่งมองแม้น้ำเจ้าพระยา และวิถีชีวิตแบบชุมชน ก็มีความสุขดี

ถ่ายรูปกับกระเป๋าใหม่ (อวดๆ) ของดีมีคุณภาพ อยากได้อ่านท้ายรีวิว
ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง
วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 8 โมงเช้า เป็นเวลาเปิดตลาด ถ้าใครมาเที่ยวที่นี่ตั้งแต่เช้า เริ่มปั่นจักรยานเวลานี้ ก็จะไม่ค่อยร้อนสักเท่าไหร่ ผู้คนในตลาดยังไม่เยอะมาก สามารถเดินลากจักรยานผ่านเข้าไปก็ยังได้ แต่ถ้าคุณมาสายๆหน่อยนักท่องเที่ยวก็จะเยอะตามปกติ ไปจนถึงเวลา 14.30 น. ผมเคยมาเที่ยวตลาดน้ำบางน้ำผึ้งเมื่อหลายปีก่อน พอวันนี้กลับมาอีกครั้ง ตลาดน้ำเปลี่ยนไปมาก มีความเจริญขึ้น มีของขายเยอะขึ้น หลักๆก็คงเป็นอาหารการกินต่างๆ ถ้าใครเป็นคนรักการกินที่นี่คงเป็นสรรค์น้อยๆของคุณ … นอกจากข้ามเรือมาทางบางนา คุณยังขับรถมาทางพระประแดง มีลานจอดรถที่หน้าตลาดได้อีกด้วย

ของกินเยอะมาก มาเช้าๆนี่หิวเลย
ถนนสีเขียว-ถนนเพ้นท์สี (Green Road Bike)
ไหนๆก็มาปั่นจักรยานถึงบางกระเจ้า ถ้าคุณไม่มาเยือนถนนเลียบคลองบางน้ำผึ้งสายนี้ละก็ คุณพลาดมากๆ ถนนถูกทาเป็นสีเขียว ฝั่งหนึ่งเป็นต้นไม้ อีกฝั่งเลียบคลองบางน้ำผึ้ง สร้างบรรยากาศที่ดีในการปั่นมากๆ พอปั่นมาได้สักระยะคุณจะพบกับถนนที่ตัดกับถนนสีเขียวเส้นนี้ คือ ถนนที่ถูกเพ้นท์เป็นลายดอกไม้น่ารักสวยงาม โดยบริษัท L’oreal ประเทศไทย ได้มาทำกิจกรรมสร้างสรรค์เอาไว้บนถนนสายนี้ ใครที่มาที่นี่ แวะถ่ายรูปได้ภาพสวยๆกลับไปเยอะแน่นอน

ถนนสีเขียวเลียบคลองบางน้ำผึ้ง บรรยากาศดีๆใกล้ชิดธรรมชาติ
บ้านธูปหอมสมุนไพร
กลุ่มแม่บ้านเกษตรบางน้ำผึ้ง รวมตัวกันทำอุตสาหกรรมในชุมชน โดยใช้ว้ตถุดิบจากธรรมชาติ นำมาทำเป็นธูปหอม-ธูปไล่ยุง และยังมีผ้ามัดย้อมอีกด้วย นอกจากนักท่องเที่ยวจะแวะชมหรือซื้อของฝาก สามารถติดต่อทำกิจกรรมเพื่อทำธูปและผ้ามัดย้อม โดยติดต่อล่วงหน้า 1 วัน
พบรัก ณ บางน้ำผึ้ง
บ้านไม้ 2 ชั้น ทาสีเขียว-ฟ้า ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้ เริ่มเป็นที่รู้จักกว้างขวางจากละครเรื่อง “ภพรัก” นำแสดงโดย หมาก ปริญ-เบลล่า ทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ต้องมาเช็คอินเมื่อคุณมาเที่ยวบางกระเจ้า หรือบางคนก็มาตามรอยละคร สำหรับพบรักไม่ใช่แค่ร้านอาหารหรือร้านกาแฟเท่านั้น ที่นี่ยังเป็นโฮมสเตย์ คุณสามารถจองห้องพัก แล้วดิ่มด่ำบรรยากาศบางกระเจ้าริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้ด้วย … ส่วนตัวผมเองได้มาแวะรับประทานอาหารเย็นที่นี่ เพราะไม่ไกลจากที่ผมพัก เดินมา 2 นาทีก็ถึงแล้ว

ปั่นมาครึ่งวัน หิวเบอร์ไหน ไม่ต้องถามเลย
โฮมสเตย์-ร้านกาแฟ
นอกจาก Bangkok Tree House กับพบรัก บางกระเจ้ายังมีโฮมสเตย์อีกหลายแห่ง ราคาหลักร้อยต้นๆเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟหลายร้านที่ซ้อนตัวอยู่ในแมกไม้หรือตามถนนหนทางที่นักท่องเที่ยวปั่นจักรยานผ่าน คุณสามารถแวะพักดื่มเครื่องดื่มดีๆ หรือถ้าอยากนอนค้างสักคือแบบมีงบจำหัด โฮมสเตย์ที่นี่ก็มีให้เลือกหลายที่รอคุณอยู่
หิ่งห้อย ณ บางกระเจ้า ***ห้ามถ่ายรูป***
ถ้าคุณไม่ได้นอนค้างที่นี่ ก็คงจะไม่ได้สัมผัสประสบการณ์แบบนี้ ผมเชื่อว่าหลายคนคงไม่รู้ว่า บางกระเจ้ามีอะไรแบบนี้ด้วย … เวลา 2 ทุ่ม ทางโรงแรมนัดคนขับเรือเพื่อพาเราล่องแม่น้ำเจ้าพระยาไปชมหิ่งห้อย เราทราบชื่อคนขับเรือตอนเราลงเรือแล้ว ลุงชื่อ “ลุงแกละ” ผู้ชายอายุราวๆ 50 กว่า ผอมๆ ผิวคล้ำ แต่ดูสุขภาพยังแข็งแรงอยู่ ลุงเป็นผู้เชี่ยวชาญการเกษตรและหิ่งห้อย ลุงเป็นคนพื้นเพที่บางกระเจ้าตั้งแต่เกิด ลุงไม่ใช่แค่คนขับเรือธรรมดาๆ ลุงยังผ่านการฝึกอบรมจากม.เกษตร เพื่อนำความรู้มาพัฒนาชุมชนและสร้างความเข้าใจกับนักท่องเที่ยว

นั่งรอเรือมารับไปดูหิ่งห้อย
ลุงพาเรานั่งเรือราวๆ 20 นาที ล่องไปกลางแม่น้ำเจ้าพระยา เรามาไกลจนเห็นสะพานแขวนพระราม 9 อยู่ใกล้ๆ ลุงเลี้ยวหัวเรือแล้วดับเครื่องยนต์ ค่อยๆพาดเรือพาเราเข้าไปในป่าริมฝั่ง พอเราเข้าใกล้ฝั่ง เราเห็นต้นลำพูขนาดใหญ่ แล้วมีแสงหิ่งห้อยหลายร้อยตัว กระพริบเป็นระยะ แสงสีเหลืองนวลที่สว่างวาวในความมืด มันช่างสวยงามแทนหมู่ดาวที่มองไม่เห็นในคืนนี้เพราะเมฆฝนบังจนหมด … ลุงแกละเล่าอย่างภูมิใจว่า “หิ่งห้อยเหล่านี้เป็นพันธุ์น้ำกร่อย 6 วิ 4 แว่บ (6 วินาที จะมีแสง 4 แว่บ) ตัวผู้เมื่อโตเต็มวัย 12 วันตาย ตัวเมียมีหน้าที่วางไข่ 16 วัยตาย เมื่อหิ่งห้อยเลือกคู่ จะรักเดียวใจเดียว โดยตัวเมียจะเป็นผู้เลือก แต่ถ้าเลือกแล้ว ตัวผู้ตัวนั้นไม่ชอบ ก็จะสลัดตัวเมียทิ้ง” … เป็นความรู้ที่เราไม่เคยรู้มาก่อน ประกอบกับภาพหิ่งห้อยที่แข่งกันส่องแสงตรงหน้าเรายิ่งสร้างความประทับใจให้ค่ำคืน ณ บางกระเจ้า ของผมได้เป็นอย่างดี
.
ระหว่างที่ลุงขับเรือพาเรากลับ ลุงยังพาเราแวะป่าต้นลำพูอีก 2 จุด ยังได้เจอหิ้งห้อยอีกพันธุ์หนึ่ง ตัวใหญ่กว่าหิ่งห้อยน้ำกร่อย มันจะส่องแสง 6 วิ 1 แว่บ (6 วินาที จะมีแสง 1 แว่บ) และพันธุ์นี้ ลุงแกละบอกว่า เป็นพันธุ์ที่คนไทยสามารถเพาะได้ จนเป็นที่ยอมรับของนานาชาติ เป็นสิ่งที่ลุงเล่าแล้วมีความภูมิใจในวิถีชีวิตชาวบ้านริมแม่น้ำแบบลุงอย่างมาก ที่สำคัญลุงยังย้ำว่า ที่ไม่อยากให้ถ่ายรูป เพราะจะเป็นรบกวนชีวิตของหิ่งห้อย และมันอาจจะตายได้ง่ายๆ

ถ่ายภาพหลังจากไปดูหิ่งห้อยกลับมา
พอกลับมาถึงโรงแรม เราก็ทำการเปิดกระเป๋าเตรียมของ เพื่อจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวเข้านอน สำหรับวันเสาร์ เวลา 4 ทุ่มในกรุงเทพฯ ผู้คนคงเพิ่งออกจากห้าง ความวุ่นวายยังคงมีอยู่ตลอดคืน แต่ไม่น่าเชื่อว่า เพียงเราพาตัวเอาข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาอีกฝั่งแม่น้ำ ในเวลาเดียวกันที่นี่กลับมืดมิด สัมผัสได้เพียงความสงบ เสียงแมลง และเสียงลมที่พัดผ่านต้นไม้เท่านั้น … พอเราตื่นในตอนเช้า เปิดประตูระเบียง คุณจะเห็นกระรอกวิ่งบนต้นไม้มาทักทายคุณจนเป็นเรื่องปกติ เสียงนกร้องออกหากิน และอากาศเย็นๆสดชื่นหลังฝนตกปรอยๆตลอดคืน ช่างเป็นเช้าที่สดใสอีกหนึ่งวัน หลังจากล้างหน้าแปรงฝัน ผมก็พาตัวเองออกไปปั่นจักรยานรับแสงแดดอ่อนๆ และถ่ายรูปสวยๆเพื่อเก็บเป็นความประทับใจ (จากที่โพสๆด้านบนที่ทุกคนได้อ่านผ่านมาแล้ว)

นอนท่ามกลางต้นไม้
พอถึงเวลาเที่ยงก็ต้องลากกระเป๋าเดินทาง Kamiliant และ Check out เพื่อกลับฝั่งกรุงเทพฯ … การมาเยือน “บางกระเจ้า” ที่คุณกำลังอ่านอยู่นี้ ผมเชื่อว่าจะเป็นรีวิวที่ทำให้คุณใช้ชีวิตแบบสโลวไลฟ์จริงๆ ถึงแม้ที่นี่จะอยู่ใกล้กรุงเทพฯ แต่การที่คุณได้นอนค้างที่นี่สักคืน ได้มองดูกระรอกวิ่งเล่น ได้ฟังเสียงนกปลุกคุณตอนเช้า และได้มองแสงนวลๆจากหิ่งห้อยแทนหมู่ดาว เป็นประสบการณ์ที่ไม่อาจลืมเลือนจริงๆ …
ถ้าคุณชื่นชอบการท่องเที่ยวและการดูแลตัวเองดีๆ มาติดตามกัน Facebook >>> https://www.facebook.com/NightPhoominOfficial/
Instagram: http://instagram.com/nightphoomin และ Twitter: https://twitter.com/NightPhoomin
(ღ˘⌣˘ღ)
สำหรับใครที่อ่านรีวิวนี้ แล้วชื่นชอบกระเป๋าเดินทางสีสันสวยงาม ออกแบบคุณภาพได้มาตรฐาน ยี่ห้อ Kamiliant ผมซื้อที่ www.orami.co.th สำหรับสมาชิกใหม่ได้โค๊ด “Hello” ลดเพิ่มอีก 150 บาท(จากที่ลดอยู่แล้ว) มีหลายขนาดหลายแบบ ลองไปเลือกซื้อดู ชี้เป้าของดีราคาถูกให้แล้ว จัดไปครับ
ติดตามเพจผมได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/NightPhoominOfficial
Instagram: www.instagram.com/nightphoomin
Twitter: www.twitter.com/nightphoomin