โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เพราะบทความนี้ผู้เขียนไม่มีเจตนาสร้างความแตกแยก แต่ผู้เขียนนำข้อมูลต่างๆที่อ่านจากหนังสือและอินเตอร์เนท นำมาเรียบเรียงใหม่เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจเหตุการณ์ต่างๆ แล้วเมื่อท่านไปท่องเที่ยวประเทศลาวหรือเมืองหลวงพระบาง ท่านจะมีมุมมองการท่องเที่ยวที่ลึกซึ้งและสนุกขึ้นครับ
*** เที่ยวรู้ลึก เรื่องราวสนุกๆ ติดตามเพจ >>> https://www.facebook.com/NightPhoominOfficial/

พระราชวังหลวงพระบาง ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์

พระบรมโกศ (องค์กลาง) ราชรถใช้ครั้งสุดท้ายปี 1961 ในพิธีถวายพระเพลิงเจ้าศรีสว่างวงศ์ จัดแสดงอยู่ภายในโรงเมี้ยนโกศ วัดเชียงทอง ส่วนโกศองค์ด้านหน้า ใช้กับพระเจ้าอา เจ้าเพรชรัตน์
การมาเที่ยวเมืองหลวงพระบาง ประเทศลาว ต้องมาเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอย่าง พระราชวังหลวงพระบาง และวัดเชียงทอง ซึ่ง 2 สถานที่นี้เป็นสถานที่แห่งความทรงจำรำลึกถึงพระกษัตริย์และพระวรวงศานุวงศ์แห่งชาติลาวที่เคยปกครองดินแดนแห่งนี้มายาวนานถึง 704 ปี ก่อนเปลี่ยนแปลงเป็นระบอบคอมมิวนิสต์ในช่วง 40 ปีหลัง
ความทรงจำที่เลือนลาง
“มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่คนลาวจะพูดถึงกษัตริย์ลาวในประเทศของตนเอง”
คำบอกเล่าของหญิงชราที่ผมได้พูดคุยเมื่อครั้งไปเที่ยวหลวงพระบาง
แล้วเธอยังบอกอีกว่า “ตอนเด็กๆเธอเห็นเจ้ามหาชีวิตเสด็จออกทางประตูวังทางทิศเหนืออยู่เสมอๆ”
นั้นคือความทรงจำเล็กๆต่อสมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวัฒนา กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งราชอาณาจักรลาว พระองค์ขึ้นครองราชย์ในวันที่ 29 ตุลาคม ปี 1959 ต่อจากพระราชบิดา สมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวงศ์ เสด็จสวรรคตจากอาการป่วยอันเนื่องมาจากการได้รับความกระะทบกระเทือนใจรุนแรงจากการใช้อำนาจไม่เป็นธรรมของนายกรัฐมนตรีผุย ชะนะนิกอน (สมัยนั้น) ซึ่งทำให้แผนการปรองดองแห่งชาติถูกทำลายลง

สมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวงศ์ กษัตริย์อาณาจักรลาว ครองราชย์ปี 1904-1959 (พระบิดาของเจ้าศรีสว่างวัฒนา กษัตริย์ลาวองค์สุดท้าย)

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช และพระบาทสมเด็จพระเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรลาว ทรงร่วมเป็นประธานในพระราชพิธีเปิดสายส่งไฟฟ้าแรงสูงเชื่อมระหว่างไทย-ลาว ณ กลางแม่น้ำโขง เมื่อ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2510

สมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวัฒนากับสมเด็จพระราชินีอัครมเหสีคำอุ่น
สืบเนื่องมาจากยุคล่าอาณานิคม ลาวเป็นส่วนหนึ่งในประเทศอินโดจีนที่ถูกครอบครองโดยฝรั่งเศส ช่วงปลายปี 1953 จนถึงปี 1954 ฝรั่งเศสต้องเผชิญกับสงครามรอบด้านในอินโดจีน ทำให้เสียฐานที่มั่นไปหายแห่ง จนถึงสงครามในยุโรปที่ยืดเยื้อมานาน ทำให้ฝรั่งเศสถูกปีบให้เข้าสู่การเจรจาสงบศึก ซึ่งสนธิสัญญาเจนีวาในปี 1954 ใจความสำคัญส่วนหนึ่งคือ ฝรั่งเศสต้องมอบเสรีภาพให้แก่สามชาติอินโดจีน ได้แก่ ลาว, กัมพูชา และเวียดนาม โดยถอนทหารออกจากอินโดจีนภายใน 300 วัน
หลังจากสนธิสัญญาเจนีวาจบลง ดูเหมือนประเทศในกลุ่มอินโดจีนจะพยายามจัดตั้งรัฐบาลเพื่อบริหารบ้านเมืองของตัวเอง หลังจากถูกฝรั่งเศสปกครองมาหลายสิบปี แต่เหตุการณ์กลับยิ่งเลวร้ายลงไปอีก เมื่อ กัมพูชา, เวียดนาม และลาว เป็นประเทศหุ่นเชิดระหว่างฝ่ายทุนนิยมอย่างสหรัฐอเมริกากับฝ่ายคอมมิวนิสต์จากโซเวียตและประเทศจีน ซึ่งอเมริกาดำเนินนโยบายต่อต้าลัทธิคอมมิวนิสต์ โดยเพ็งเล็งประเทศในกลุ่มอินโดจีนเป็นหลัก เพราะเชื่อว่าลัทธิคอมมิวนิสต์ลุกลามขยายตัวมาจากประเทศจีนเป็นโดมิโน
นักวิชาการเชื่อกันว่า อเมริกาทุ่มงบประมาณกว่าพันล้านดอลล่าร์เพื่อแทรกแซงการเมืองในกลุ่มประเทศอินโดจีน และมีทหารอเมริกันเข้าสู่สงครามมากกว่า 3 ล้านคน โดยชักนำพันธมิตรเสรีทุนนิยมเข้าสู่สงครามอย่าง ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และเกาหลี ส่วนเพื่อนบ้านในเอเชียอาคเนย์อย่าง ไทย และฟิลิปปินส์ ก็กลายเป็นฐานทัพของอเมริกา ซึ่งในประเทศลาวโดยเฉพาะทางภาคเหนือเป็นภูมิประเทศเชื่อมต่อไปจีน ทำให้อาวุธสงครามถูกลำเลียงต่อไปถึงเวียดนามและกัมพูชา เฉพาะหลายพื้นที่ในบริเวณนี้จะเกิดสงครามขึ้นบ่อยครั้ง มีทหารม้งรับจ้างจาก CIA สหรัฐฯ ร่วมรบกับคอมมิวนิสต์ ทั้งนี้เชื่อว่าประเทศลาวถูกทิ้งระเบิดมากกว่า 3 ล้านตัน
*หมายเหตุ: ผู้เขียนสรุปแค่ใจความสำคัญเท่านั้น ถ้าใครสนใจเรื่องราวสงครามในลาว ค้นหาคำว่า “สงครามกลางเมืองลาว” หรือ “Secret War in Laos”
เครื่องบินสหรัฐฯทิ้งระเบิดในสงครามลาว
ทหารม้งรับจ้าง CIA สหรัฐฯ รบในพื้นที่ลาว

War and Conflict, The Vietnam War, near Khe Sanh, South Vietnam, pic: circa 1968, American soldiers close to the Laos border with a board reminding them of their long distance from home (Photo by Rolls Press/Popperfoto/Getty Images)
เชื้อพระวงศ์ลาวแตกแยกกันเองเพราะต่างอุดมการณ์
จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า สมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวัฒนาขึ้นครองราชย์ในระหว่างที่ประเทศลาวแตกเป็นหลายฝ่าย โดยหัวหน้าแต่ละฝ่ายต่างเป็นเชื้อพระวงศ์ที่มาจากวังหลวงและวังหน้าทั้งสิ้น ซึ่งแยกย้ายฐานอำนาจกระจายไปสู่หลวงพระบาง, เวียงจันทร์และจำปาศักดิ์ แต่ต่างอุดมการณ์กัน พระองค์ตัดสินพระทัยทรงเลื่อนพิธีราชาภิเษกถึง 2 ครั้ง ด้วยเหตุที่บ้านเมืองไม่สงบ (และไม่เคยจัดพิธีราชาภิเษกจนพระองค์สวรรคต) พระองค์เสด็จเยือนสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียต เพื่อแสดงความเป็นกลางของประเทศลาว

สมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวัฒนาเสด็จเยือนสหรัฐฯอย่างเป็นทางการ เพื่อพบกับ John F. Kennedy ประธานาธิบดีสมัยนั้น

ขบวนทหารสหรัฐฯจัดขึ้นอย่างสมพระเกียตริ
ส่งเสด็จกษัตริย์ที่รัก
ช่วงเดือนเมษายน ปี 1961 ระยะเวลาปีกว่าหลังจากการสวรรคตของสมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวงศ์ พระราชรถที่สร้างขึ้นใหม่ลงรักปิดทองทั้งคันรถความสูง 12 เมตร ด้านหน้าประกอบด้วยพญานาค 7 เศียร ราชรถตกแต่งลวดลายศิลปะแบบล้านช้างและรามเกียรติ์ มีความงดงามมาก ซึ่งขบวนราชรถเคลื่อนมารับพระบรมโกศ ณ หอคำ พระราชวังหลวงพระบาง แล้วเคลื่อนขบวนไปที่วัดธาตุหลวง ซึ่งเป็นวัดสำคัญที่จัดราชพิธีถวายเพลิงพระศพพระวรวงศานุวงศ์ (มีลานกว้างคล้ายสนามหลวงของกรุงเทพฯ) โดยจัดสร้างพระเมรุมาศไว้ที่ลานวัด หลังจากถวายพระเพลิงแล้ว ในส่วนของพระบรมอัฐิยังบรรจุไว้ในเจดีย์ของวัดธาตุหลวงอีกด้วย หลังจากนั้น 1 ปี สมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวัฒนาทรงโปรดให้ช่างหลวงนามว่า “เพียตัน” ช่างแกะสลักประจำพระองค์ ออกแบบโรงเมี้ยนโกศ หรือโรงเก็บราชรถ ขึ้นในบริเวณวัดเชียงทอง ด้านนอกแกะสลักลงรักปิดทองงดงามเป็นลวดลายเรื่องราวรามเกียรติ์
… และพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพครั้งนั้น ถือว่าเป็นครั้งสุดท้ายของกษัตริย์ลาว

ขบวนราชรถเคลื่อนมารับพระบรมโกศที่พระราชวังหลวงพระบาง

พระบรมโกศออกจากพระราชวังสู่ขบวนราชรถ เคลื่อนขบวนออกจากพระราชวังสู่ลานวัดพระธาตุหลวง

สมเด็จพระศรีสว่างวัฒนาเสด็จในขบวน

ประชาชนชาวลาวร่วมส่งเสด็จเป็นครั้งสุดท้าย
เกิดชาติกษัตริย์ ตายอย่างนักโทษ
หลังจากพระราชบิดาสวรรคต สมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวัฒนา ทรงเป็นกษัตริย์ปกครองได้ 16 ปี พระองค์ครองราชย์ภายใต้สถานการณ์บ้านเมืองแตกแยกระหว่างฝ่ายทุนนิยมและคอมมิวนิสต์ ช่วงปี 1975 หลังจากสหรัฐอเมริกาพ่ายแพ้สงครามเวียดนาม และถอนกำลังออกจากอินโดจีนในที่สุด คอมมิวนิสต์ก็มีอำนาจมากขึ้น เวียดนามรวมประเทศ, กัมพูชาถูกปลดปล่อยประเทศ แต่ก็นำไปสู่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จากกลุ่มเขมรแดง พอมาถึงลาว เกิดกระแสการปลดปล่อยประเทศมากขึ้นหลังจากที่สองดินแดนเพื่อนบ้านปลดปล่อยประเทศสำเร็จ … ซึ่งภายใต้การบริหารประเทศลาว 3 ฝ่าย ได้เผยแพร่โครงการการเมือง 18 ข้อ มุ่งเน้นเสรีภาพของประชาชน (บ้างก็อ้างประชาธิปไตยของประชาชน แต่จริงๆคือแนวคิดแบบคอมมิวนิสต์ แบบที่จีนแดงใช้เมื่อครั้งปฏิวัติประเทศนั้นเอง) โดยมีผู้นำคนสำคัญคือ ไกสอน พมวิหาน ทำให้การขบวนการต่อต้านฝ่ายขวาหรือเสรีทุนนิยมมากยิ่งขึ้น มีการปราศรัยเดินขบวนหลายแห่ง ประกอบด้วย นักเรียน นักศึกษา กรรมกร ชาวนา รวมถึงข้าราชการฝ่ายซ้าย เพื่อกดดันข้าราชการและรัฐมนตรีฝ่ายขวาให้ลาออก หรือจับเป็นนักโทษทางการเมือง
*หมายเหตุ: ปัจจุบันในประเทศลาวยกย่อง ไกสอน พมวิหาร เป็นวีรบุรุษ มีอนุสาวรีย์ของเขาอยู่ทั่วประเทศ รวมถึงบนธนบัตรลาวอีกด้วย

เจ้าสุพานุวง (ฝ่ายคอมมิวนิสต์) ระหว่างพาเจ้าศรีสว่างวัฒนากับพระราชินี เยี่ยมเยือนประชาชนเมืองเวียงไซ ถ่ายเมือ พ.ค. 1975 ก่อนทำการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง 6 เดือน และท่านยังเป็นประธานาธิบดีคนแรกของลาว

ไกสอน พมวิหาน ขบวนการปะเทดลาว ผู้มีส่วนสำคัญในการล่มล้างระบอบกษัตริย์ในลาว จนเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นคอมมิวนิสต์แบบจีนและเวียดนามในที่สุด
วันที่ 25 พ.ย. 1975 กลุ่มขบวนการปะเทดลาวร่วมกับรัฐบาลผสมและคณะรัฐมนตรีผสมการเมืองแห่งชาติ ประชุมขึ้นที่เมืองเวียงไซ (ทางเหนือของลาว) ลงมติเป็นเอกฉันท์ให้ลบล้างระบอบสมบูรณาญาสิทธิ์ราชย์ในประเทศลาว โดยท่านสุพานุวง, ท่านสุวันนะพูมา และท่านพูมี วงวิจิด นำมติที่ประชุมเพื่อกราบบังคมทูลต่อเจ้าศรีสว่างวัฒนาที่พระราชวังหลวงพระบาง
วันที่ 29 พ.ย. 1975 เป็นวันที่ชาติลาวต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ ถือว่าเป็นการสิ้นสุดการปกครองระบอบกษัตริย์ยาวนานถึง 704 ปี (ค.ศ.1271-1975) คณะรัฐบาลเข้าเฝ้าพระองค์ ณ พระราชวังหลวงพระบาง กราบบังคมทูลมติของที่ประชุม สมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวัฒนาตัดสิ้นพระทัยสละราชบังลังก์ (บ้างก็ว่า จากสถานการณ์แล้วพระองค์ถูกบังคับ) โดยพระองค์ยังได้รับตำแหน่งที่ปรึกษาสูงสุดของประธานประเทศ และพระองค์ไม่ขอรับโอกาสที่จะหลีภัยทางการเมือง โดยพระองค์ตรัสว่า
“เราเป็นคนลาวด้วยกันก็ต้องคุยกันได้”

สมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวัฒนากับสมเด็จพระราชินีอัครมเหสีคำอุ่น
วันที่ 2 ธันวาคม 1975 ฝ่ายปะเทดลาวจัดตั้ง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยให้เจ้าสุพานุวง เป็นประธานประเทศ(ประธานาธิบดี) ไกสอน พมวิหาน เป็นนายกรัฐมนตรี และเจ้าศรีสว่างวัฒนา ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาประธานประเทศ
*หมายเหตุ: แง่มุมอีกด้าน หลังจากที่ฝ่ายคอมมิวนิสต์ยึดประเทศลาว ล้มล้างระบบกษัตริย์ได้สำเร็จ รวมถึงล้างสมองประชาชนให้ต่อต้านทุนนิยมแล้ว การจัดการบริหารประเทศไม่เป็นไปตามนโยบายที่ให้ไว้ก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ใครไม่เห็นด้วยจะถูกส่งไปที่ศูนย์สัมมนา ที่เวียงไซ แล้วยังมีข้อห้ามมากมาย เช่น ห้ามประชาชนออกนอกบ้านตอนกลางคืน, ห้ามแต่งตัวตามอย่างตะวันตก ซึ่งประชาชนที่อยู่ตามหัวเมืองใหญ่ๆไม่สามารถใช้ชีวิตในแบบสังคมนิยมได้ ทำให้ยุคนั้นมีชาวลาวหลีภัยมายังประเทศไทยนับหมื่นคน นอกจากนี้ค่ายผู้หลีภัยในประเทศไทยจัดตั้งเมื่อปี 1975 ในระยะเวลาสงครามอินโดจีนหลายปี ไทยได้ให้การช่วยเหลือผู้ลี้ภัยจากลาว, กัมพูชา และเวียดนาม ราว 1.3 ล้านคน

ค่ายผู้หลี้ภัยชายแดนไทย-ลาว
ถึงแม้ว่าพระองค์จะเป็นสามัญชน แต่พระองค์ยังคงประทับอยู่ในพระราชวังหลวงพระบาง จนในปีถัดมา รัฐบาลลาว นำโดย พูมี วงวิจิด สั่งให้พระราชวังและทรัพย์สินพระราชวังตกเป็นของแผ่นดิน มีผลให้พระองค์และพระญาติวงศ์เสด็จไปประทับ ณ ที่พักใกล้วัดเชียงทอง
ต่อมาวันที่ 11 มีนาคม ปี 1977 เหตุการณ์บ้านเมืองลาวยังไม่สงบดี และรัฐบาลลาวสมัยนั้นหวั่นว่า พระองค์จะถูกมองเป็นสัญลักษณ์ต่อต้านคอมมิวนิสต์ เพราะยังมีทหารและชาวลาวที่ยังต่อต้านรัฐบาลอยู่ จึงนำพระองค์, พระมเหสี, เจ้าฟ้าชายมกุฏราชกุมาร, เจ้าฟ้าศรีสว่าง, และพระอนุชาของพระองค์คือ เจ้าฟ้าสุพันธรังสี และ เจ้าฟ้าทองสุก รวมถึงพระญาติวงศ์และข้าราชการที่ติดตามพระองค์ ได้ถูกพามาอยู่ศูนย์สัมมนาที่เมืองเวียงไซ ประทับ ณ “ค่ายหมายเลข 1” โดยจับแยกหญิงแยกชาย ถึงแม้ว่าศูนย์สัมมนาจะเป็นที่รู้กันว่า เป็นสถานที่เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับคอมมิวนิสต์ ต่อต้านระบอบเสรีทุนนิยม แต่จริงๆแล้วที่นี้เปรียบเสมือนค่ายกักกันนักโทษทางการเมือง มีทั้งราชวงศ์, ข้าราชการ, ปัญญาชน มากมาย
… สุดท้ายชะตากรรมกษัตริย์องค์สุดท้ายไม่มีแม้แต่พิธีถวายพระเพลิง
เจ้าศรีสว่างวัฒนา, พระมเหสี และพระโอรส จบชีวิตลง ณ ศูนย์สัมมนา โดยคำบอกเล่าต่างๆจากเอกสารที่รวบรวมเกี่ยวกับศูนย์สัมมนา (ซึ่งมีออกมาน้อยมาก) เจ้าศรีสว่างวัฒนาถูกข่มเหงต่างๆนานา ต่อมาสวรรคตด้วยสาเหตุจากความชราภาพและการอดอาหาร ไม่มีพระราชพิธีถวายเพลิงพระศพอย่างสมพระเกียรติแต่อย่างใด ส่วนเจ้าฟ้าชายมกุฏราชกุมารได้สิ้นพระชนม์ก่อนหน้านี้จากการขาดอาหาร รวมถึงพระมเหสีที่ผิดใจกับผู้คุ้มหลังถูกขโมยแมวที่รักไปฆ่ากินเป็นอาหาร โดยพระศพของทั้ง 3 พระองค์ถูกฝังที่ในป่าใกล้ศูนย์สัมมนา(ปัจจุบันไม่มีแล้ว)
… ปัจจุบันไม่มีใครทราบว่า พระศพถูกฝั่งบริเวณไหนกันแน่ ถึงแม้ว่าจะมีผู้รอดชีวิตจากศูนย์สัมมนา แต่เรื่องราวถูกเปิดเผยน้อยเหลือเกิน รวมถึงข้อเท็จจริงต่างๆยังถูกเป็นความลับยาวนานกว่า 40 ปี ตั้งแต่อาณาจักรลาวเปลี่ยนระบอบการปกครองเป็นคอมนิวนิสต์แบบเดียวกับเวียดนาม เรียกประเทศว่า สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

เจ้าฟ้าชายมงกุฎราชกุมารวงศ์สว่าง (คนที่สองจากขวา) กับ เจ้าหญิงมณีไลย มกุฎราชกุมารีแห่งลาว (ซ้ายสุดแถวหน้า) เสด็จเยือนสหรัฐฯอย่างเป็นทางการ ถ่ายที่ White House ร่วมกับประธานาธิบดี Lyndon Baines Johnson ปี 1967
*หมายเหตุ: เจ้าหญิงมณีไลย เป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกปล่อยตัวจากศูนย์สัมมนาหลังจากเหตุการณ์ในลาวสงบ พระองค์ใช้ชีวิตอยู่ที่หลวงพระบาง ปัจจุบันพระชนม์มายุ 75 พรรษา (ประสูติปี 1941)
จากชาติกษัตริย์สู่นักโทษทางการเมือง สมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวัฒนา กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งชาติลาว พระองค์ไม่เคยทอดทิ้งประเทศของพระองค์ถึงแม้ว่ามีโอกาสลี้ภัยทางการเมืองก็ตาม พระจริยวัตรและความเมตาของพระองค์ยังคงอยู่ในความทรงจำของคนแก่คนเฒ่าชาวลาว โดยเฉพาะคนหลวงพระบางที่เคยพบพระองค์ ในทางตรงกันข้ามพระองค์ค่อยๆเลือนลางและกำลังจะจางหายไปจากความทรงจำของคนรุ่นหลัง เหลือไว้เพียงพระราชวังหลวงพระบางที่ยังเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชม รวมถึงโรงเมี้ยนโกศ ณ วัดเชียงทอง ที่เก็บราชรถที่ยังคงสง่างามถึงแม้จะถูกใช้งานเพียงครั้งเดียวในพระราชพิธีถวายเพลิงพระบรมศพเจ้าศรีสว่างวงศ์ และครั้งนั้นก็คือ ครั้งสุดท้ายก็ตาม …
***ฝากแชร์เรื่องราวประวัติศาสตร์ที่หาอ่านยากแบบนี้ด้วยนะครับ***
*** เที่ยวรู้ลึก เรื่องราวสนุกๆ ติดตามเพจ >>> https://www.facebook.com/NightPhoominOfficial/
สำหรับใครที่อยากไปสัมผัสรากเหง้าชนชาติลาว ผมแนะนำเมืองหลวงพระบาง มรดกโลก ยังรอทุกคนไปเยือนนะครับ ผมเคยเขียนรีวิวฉบับเต็มไว้ที่ >>> http://www.nightphoomin.com/luangprabang/
ติดตามเพจผมได้ที่
https://www.facebook.com/NightPhoominOfficial
Instagram: @nightphoomin
Twitter: @nightphoomin