เชืองแบบนี้ ลาออกจากความเป็นเสือเถอะ!
ดูคลิปวิดีโอ พาเที่ยว Tiger Kingdom คลิกเลย
.
.
การมาเยือนเชียงใหม่ครั้งนี้ ไนท์ตั้งใจจะเที่ยวในย่านอ.แม่ริม และหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่อยากไปก็คือ Tiger Kingdom (เที่ยวเอง จ่ายเอง ไม่มีสปอนเซอร์นะจ๊ะ) หรือที่เรียกเป็นภาษาไทยว่า “คุ้มเสือ” นอกจากที่เชียงใหม่แล้ว ยังมีที่ภูเก็ตและอุบลราชธานี อีกด้วย

บัตรคิวตอนขับรถเข้ามา

อาคารหลักคุ้มเสือ

ภายในคุ้มเสือ ต้อนรับนักท่องเที่ยว
เราเดินทางมาถึงที่นี้ราวๆ บ่าย 3 โมง (ถ้ามาจากตัวเมืองเชียงใหม่ ขับมาทางอ.แม่ริม ราวๆ 20 นาที) รับบัตรคิวตั้งแต่ลานจอดรถ พอเดินเข้าไปในอาคาร เจ้าหน้าที่จะถามเราว่า มากินข้าวหรือมาเข้ากรงเสือ ซึ่งถ้าคุณมากินข้าว ดูเสือฟรีๆ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรนอกจากอาหาร ส่วนถ้าใครจะเข้ามาเล่นกับเสือ ที่นี้มีหลากหลายราคา เริ่มต้น 700 บาท (เสือขนาดใหญ่สุด) จนถึง 1,300 บาท (เสือเล็กสุด แพงกว่าเพราะเสี่ยงติดเชื้อโรคหรือป่วยมากกว่า) นอกจากนี้ยังมีบริการถ่ายรูปให้ด้วย (จ่ายแยกจากแพ็คเก็ต)
ปล. บอกสักหน่อยว่า ถ้าคุณไม่ซื้อแพ๊คเก็ตที่มีตากล้องด้วย คุณต้องถ่ายรูปกันเองเท่านั้น เจ้าหน้าที่ที่พาเข้าชมไม่สามารถถ่ายให้ได้ เพราะต้องค่อยดูแลเสือให้นักท่องเที่ยว

แพ็ตเก็ตต่างๆ

ผมเลือกราคา 700 บาท ราคาโอเค และได้ขนาดใหญ่สุด (คือไม่ค่อยกลัวไง) ส่วนเรื่องถ่ายรูปไม่มีปัญหา ถ้ามากับเพื่อนหรือถ้าคุณมากับแฟน ก็ผลัดกันถ่าย สบายๆครับ หลังจากซื้อตั๋วแล้ว เราก็เดินไปที่จุดรอเจ้าหน้าที่ เพื่อพาไปในบริเวณกรงเสือ พอเราเดินเข้ามาแล้ว จะพบกับกรงเสือมากมาย มีเสือหลากหลายขนาด และทุกๆกรงจะมีสระน้ำให้เสือได้เล่นแล้วคลายร้อน แล้วคุณจะเห็นเสือ 2 ตัว เล่นหยอกล้อกันในสระสนุกสนานตลอดเวลา


มาเล่นกันเถอะ

เราเดินมาถึงกรงที่มีเสือขนาดใหญ่สุด(และอ้วนด้วย) 3 ตัว เจ้าหน้าที่ก็จะจัดท่าทางของเสือให้ถ่ายรูปออกมาได้น่ารักที่สุด แต่มีข้อห้ามสำคัญคือ ห้ามจับขาหน้า และ จับบริเวณหัวเสือ เพราะระวังเสือจะตะบบได้ครับ ส่วนบริเวณที่เสือชอบที่สุดก็คือ “พุง” เกาไปเลยครับ เกาแรงๆ เพลินจนเจ้าเสือนอนหงายเป็นแมวเลยละครับ … คุณเวลาราวๆ 10 นาทีในการเล่นกับเสือ ถ้าใครมัวยืนกลัวก็อาจจะไม่ได้รูปสวยๆนะครับ ยังไงแล้วก็มีเจ้าหน้าที่คอยห้ามปลามเสืออยู่ ถ้าเขาเกิดอาการไม่น่าไว้วางใจ … จากรวมๆที่เราได้สัมผัสกับเสือทั้ง 3 ตัว เขามีความสบายใจ อารมณ์ดี ดูจากท่าทีที่เขานอนไม่ได้มีความกังวลแต่อย่างใด ถึงแม้ว่านักท่องเที่ยวจะสับเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ามาก็ได้ (ถ้าเป็นแมว เห็นคนแปลกหน้าก็วิ่งแล้ว)

เจ้าหน้าที่กำลังจัดท่าทางของเสือ

เกาแรงๆเคลิ้มไปอีก ตัวนี้ชื่อ ดอนนี่

ตัวนี้ชื่อ โอลิเวอร์ ขี้เกียจมาก
หลังจากที่เราถ่ายรูปกันจนพอใจแล้ว ก็บอกลาเจ้าเสือแล้วเจ้าหน้าที่ เดินออกมาเยี่ยมชมบริเวณอื่นๆของที่นี้ ทั้ง กรงเสือขนาดใหญ่, ห้องพยาบาลเสือ, ห้องเสือแรกเกิด, กรงเสือขาว เป็นต้น คุณสามารถอยู่ในบริเวณนี้ได้จนพอใจ แล้วค่อยกลับก็ได้ ส่วนเวลาปิดนั้น 18.00น. ครับ

ห้องพยาบาลลูกเสือ

เสือขาว … ผมหล่อไหม?

ตัวผู้อยู่ด้วยกัน บางทีมันก็เปลี่ยวใจนะ

สบายใจสุดๆ

แล้วมาเยี่ยมเราอีกนะมนุษย์
สรุป บางคนอาจจะคิดว่าที่นี้ราคาค่อนข้างสูงสักหน่อย แต่ถ้าเทียบกับค่าอาหารเสือหลายสิบตัว กินวันละ 20 กก./1 ตัว, ค่าพยาบาลเสือ, ค่าเจ้าหน้าที่ และค่าดูแลสถานที่ต่างๆ ถือว่าสมเหตุสมผลนะครับ และถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สร้างความเพลิดเพลินให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี ใครมาเที่ยวเชียงใหม่ ก็มาแวะเกาพุงเสือแบบผมนะครับ
รายละเอียดเพิ่มเติม: http://www.tigerkingdom.com/
ติดตามเพจผมได้ที่
https://www.facebook.com/NightPhoominOfficial
Instagram: @nightphoomin
Twitter: @nightphoomin











