คุณไม่รู้หรอกว่า คุณสามารถทำอะไรได้บ้าง? คุณมีอิสรภาพมากแค่ไหน? และความรู้สึกมีความสุขกับตัวคุณเองสุดๆเป็นอย่างไร? คำตอบคือ … คุณควรไปท่องเที่ยวคนเดียว!
ระยะเวลาเกือบครึ่งเดือนที่ไนท์เดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น-ฮ่องกงคนเดียว ได้ยินคำถามจากเพื่อนหลายคนแทบทุกวันว่า “ไปเที่ยวคนเดียวจริงเหรอ?” … ไนท์ก็ตอบไปว่า “จริง!!!” แล้วเรื่องนี้ไม่ง่ายเลยที่จะต้องอธิบายว่า ทำไมถึงเที่ยวคนเดียว? อยู่ยังไง? ไปไหนบ้าง? ไม่กลัวหลงเหรอเปล่า? ใช้ชีวิตยังไง? ซึ่งคำถามเหล่านี้อาจจะดูน่าตกใจสำหรับบางคนที่ไม่เคยทำอะไรคนเดียว แต่คุณไม่รู้หรอกว่า การทำอะไรคนเดียวนี้แหละ โดยเฉพาะการได้ออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยปัจจัยหลายๆอย่างที่แตกต่างจากบ้านเกิด เช่น ภาษา, วัฒนธรรม, ผู้คน หรือแม้แต่วิธีการเดินทาง มันน่าตื่นเต้นเอามากๆ และรู้สึกภูมิใจที่ฉันสามารถผ่านวันนี้ไปได้อย่างสมบูรณ์ในแบบของฉัน … ถ้าคุณยังรู้สึกกลัวที่จะเก็บกระเป๋า แล้วก้าวเท้าออกไปท่องเที่ยวคนเดียว ไนท์อยากแนะนำ 10 เหตุผลดีๆที่คุณควรเที่ยวคนเดียว อาจจะเป็นแรงบันดาลใจดีๆสำหรับคุณครับ
หมายเหตุ: ถ้าคุณอกหักรักคุด มีปัญหาชีวิต ไนท์ก็ไม่แนะนำให้ไปเที่ยวคนเดียวนะครับ … ชีวิตมันไม่ได้เหมือนในหนังกวนมึนโอนะ ไนท์แนะนำ คุณควรร้องไหให้พอ แล้วค่อยไป 🙂
-
จัดทริปในแบบของเรา ง่ายกว่าเยอะ
ทุกคนมีความฝันที่จะออกเดินทางไปท่องเที่ยวในสถานที่ที่ฝันเอาไว้ แต่คงไม่ทุกคนที่จะอยากไปในสถานที่เดียวกัน คุณอาจจะอยากไปดูความยิ่งใหญ่ของนครวัด ไปผจญภัยในแบบหนัง Tomb Rider แต่เพื่อนของคุณอาจจะอยากไปนอนอาบแดดที่มัลดีฟส์ หรือแม้แต่เวลาหยุดงานของแต่ละคนไม่ตรงกัน ซึ่งปัจจัยต่างๆเหล่านี้ เป็นสาเหตุที่คุณไม่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ เราเอาสิ่งที่เราชอบไปผูกขาดกับคนอื่นๆ ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องทำตามสิ่งที่ตัวเองอยากทำ แล้วเริ่มจัดแผนท่องเที่ยวในแบบของคุณเอง จะไปที่ไหน ทำอะไร อิสระสุดๆ
นั้นจึงเป็นที่มา ทำไมถึงไนท์ไปญี่ปุ่นคนเดียว เพราะเราตั้งใจจะไปดูคอนเสิร์ต Janet Jackson กับ Sam Smith ถือโอกาสไปเที่ยวด้วยเลย ถามใครก็ไม่มีใครสนใจ หรือเพื่อนบางคนไม่ว่างที่จะไปยาวๆ สุดท้าย เที่ยวในแบบของเราดีกว่า พอตอนนี้ลองมานั่งนึกย้อนกลับไป การเที่ยวคนเดียวมันง่ายกว่าที่เราคิดไว้จริงๆ แล้วยังได้ประสบการณ์ฟินๆกลับมาอีกด้วย
2. มีงบเท่าไหร่ เที่ยวเท่านั้น อยากทำอะไร ต้องได้ทำ
แน่นอนว่าการเที่ยวคนเดียว คุณสามารถบริหารงบประมาณการท่องเที่ยวของคุณได้เองแบบ 100% ฉะนั้นคุณสามารถเป็นตัวเองได้ 100% เช่นกัน มีงบเท่าไหร่ จะจัดสรรอย่างไร เลือกได้ตามความต้องการของเรา ตอนเช้าคุณอยากไปเที่ยวพิพิธภัณท์ กลางวันหาร้านอาหารอร่อยๆ พอกลางคืนปาร์ตี้สังสรรค์ เรียกได้ว่า เป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด อยากทำอะไรทำในงบประมาณที่เราตั้งไว้ แต่ไนท์อยากจะแนะนำสักหน่อยว่า ควรมีงบที่เผื่อเอาไว้บ้าง เพราะบางกรณีคุณอาจไปเจอของที่อยากได้หรือกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด ทำให้เราต้องเสียเงินจากที่เราวางแผนไว้เพิ่มเติ่ม การเตรียมเงินไปเผื่อ ทำให้คุณมีโอกาสเพิ่มประสบการณ์ของคุณเอง
นอกจากนี้ ถ้าคุณเป็นคนที่ง่ายๆสบายๆ Hostel ในหลายประเทศตกแต่งอย่างดี หรือแม้แต่โรงแรมบางโรงแรม มีห้องนอนสำหรับคนเดียว แน่นอนว่า คุณจะประหยัดเงินในส่วนนี้ แล้วเอาไปเที่ยวเล่นอย่างอื่นได้ด้วย
3. รู้จักตัวเองมากกว่าเดิม
ในโลกยุคดิจิตอลแบบนี้ หลายอย่างหมุนตามกระแส มาไวไปไว เราเอาจิตใจและสมองไปผูกติดกับสิ่งแวดล้อมมากเกินไป เริ่มตั้งแต่ชีวิตประจำวัน, การงาน, คนรอบข้าง หรือแม้แต่ปัญหาต่างๆนานาที่เราจะต้องจัดการ การที่คุณออกเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว มันเหมือนคุณทิ้งทุกอย่างที่เคยเป็นเอาไว้เบื้องหลัง หนทางข้างหน้าคือแผนการณ์ที่ฉันวางเอาไว้แล้ว ต้องไปเจออะไรบ้าง ไปเที่ยวที่ไหนยังไง เราจะได้อยู่กับตัวเราเอง 24 ชั่วโมงอย่างแท้จริง แล้วต้องมีสักช่วงเวลาที่คุณเดินๆอยู่บนท้องถนนคนเดียว ได้ยินเสียงความต้องการลึกๆของตัวเอง เป็นสิ่งที่คุณอยากจะทำมันแล้วไม่ได้ทำ หรือแม้แต่สิ่งที่เป็นความฝันที่เคยลืมมันไปแล้ว นี้คือโอกาสที่ดีที่คุณจะได้พูดคุยกับตัวคุณเอง รู้จักตัวเองมากกว่าเดิม และรู้ว่า เมื่อคุณกลับมาจากการเดินทาง คุณจะทำอะไรเพื่อตัวเองต่อไป
4. Connect the World เพื่อนใหม่ มีอยู่ทั่วโลก
การท่องเที่ยวคนเดียวไม่ได้หมายความว่า คุณจะเดียวดาย … ลองคิดซะใหม่!!! เพราะคุณอาจจะได้เพื่อนใหม่ๆตั้งแต่อยู่ในบนเครื่องบินก็เป็นได้ ไนท์รู้จักเพื่อนใหม่ชาวอังกฤษ เธอเป็นดีไซเนอร์ เธอเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยกับเพื่อน เรานั่งข้างกันบนเครื่องบินระหว่างเดินทางจากดูไบมากรุงเทพฯ … สิ่งที่ไนท์อยากจะบอกว่า มันง่ายมากที่คุณจะลองพูดคุยกับคนท้องถิ่นที่คุณไปเยือน อาจจะเริ่มจากส่งยิ้มให้คนที่มาเที่ยวในไนท์คลับแล้วนั่งข้างๆคุณ หรือแม้แต่การพูดคุยกับนักท่องเที่ยวด้วยกันที่เขาช่วยถ่ายรูปให้คุณ ไม่แน่นะ คนๆนั้นอาจจะเคยมาเที่ยวเมืองไทย แล้วเขาอยากจะกลับมาเที่ยวอีกก็ได้ หรือแม้แต่การได้พูดคุยกับคนที่มาจากประเทศที่คุณอยากไป มันจะดีแค่ไหนที่เราได้บอกเขาว่า I dream to visit your country so much!!! (ฉันฝันว่าจะไปเยือนประเทศของคุณมากๆ)
จากการไปเที่ยวคนเดียวของไนท์ ไนท์ได้เพื่อนใหม่จากการไปดูคอนเสิร์ต Sam Smith เธอเป็นผู้หญิงในวัย 22 ปี เธอเพิ่งเรียนจบ ไนท์ขอให้เธอถ่ายรูปให้หลังจากจบคอนเสิร์ต เธอเดินทางคนเดียวจากเกียวโตมาโกเบ เพื่อมาดูคอนเสิร์ต เรานั่งรถไฟกลับทางเดียวกัน เลยได้พูดคุยกันนิดหน่อย และ follow twitter กันครับ หรือแม้แต่เจ้าของบ้าน Airbnb ที่อายุใกล้เคียงกัน ที่บังเอิญเราไปดูคอนเสิร์ต Janet Jackson ในวันเดียวกัน แน่นอนว่า ทำให้เรารู้จักคนในท้องถิ่นเพิ่มขึ้น มีคนให้เราปรึกษาว่า คนที่นี้เขาฮิตอะไรกัน และที่สำคัญเรายังได้เพื่อนใหม่อีกด้วย
นอกจากนี้ คุณสามารถแบ่งปันความสุขไปทั่วโลก ผ่านภาพถ่ายของคุณ ทุกครั้งที่ไนท์โพสภาพท่องเที่ยวลง Instagram ไนท์จะเลือก hashtag เกี่ยวกับท่องเที่ยว ทำให้มีนักท่องเที่ยวหรือ Travel Blogger มากด Like และติดตาม และเราก็ไปติดตามเขากลับ ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีที่เราได้แชร์ภาพสถานที่ท่องเที่ยวทั่วโลกซึ่งกันและกัน ถือว่าเราได้ Connect the World จริงๆ … เห็นไหมว่า เที่ยวคนเดียว ไม่เดี่ยวดาย (อย่าลืมมาตาม Instagram ของไนท์ได้ที่ @nightphoomin … ขอบคุณก๊าบบบ)
5. ประสบการณ์ที่มากกว่าเดิม
การที่เราไปท่องเที่ยวกับผู้อื่น เป็นการแบ่งปันประสบการณ์ร่วมกัน คุณอาจจะไม่ต้องวางแผนเอง ไม่ต้องกังวลเรื่องเดินทาง หรือแม้แต่ไม่ต้องคิดว่าจะกินอะไร เพราะคนที่ไปด้วยจัดการให้หมด แต่การท่องเที่ยวคนเดียวตรงกันข้ามกับที่กล่าวมาอย่างสิ้นเชิง คุณต้องทำอะไรเองหมดทุกอย่าง ในแต่ละวันเป็นช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้ คุณจะได้ประสบการณ์ที่มากกว่าเดิม คุณจะรู้สึกซาบซึ้งและเข้าใจสถานที่ที่คุณไปได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประสบการณ์ที่หาซื้อกันไม่ได้ คุณเองเท่านั้นที่ต้องสัมผัสด้วยตัวคุณเอง
ไนท์รู้สึกขอบคุณตัวเองที่กล้าที่จะไปดูคอนเสิร์ต Janet Jackson กับ Sam Smith ที่ญี่ปุ่น ตอนแรกไนท์ลังเลเพราะหวังว่าจะมีผู้จัดสักค่ายนำศิลปิน 2 คนนี้มาแสดงในเมืองไทย แต่ท้ายที่สุดก็ไม่มีวี่แวว ถ้าไนท์ไม่ตัดสินใจออกเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว ไนท์ก็คงรู้สึกเสียใจและไม่ได้มาเขียนบทความนี้ให้ทุกคนได้อ่านกัน … การได้ดูศิลปินที่เราชื่นชอบและรอคอยมานานแสนนานเป็นประสบการณ์ที่เกินจะบรรยายจริงๆครับ
6. เพิ่มความมั่นใจ เอาชนะความกลัว
ความกลัวการเที่ยวคนเดียวจะหายไปครึ่งหนึ่งเมื่อคุณตกลงจองตั๋วเครื่องบิน ส่วนอีกครึ่งหนึ่งคุณต้องไปพิชิตด้วยความมั่นใจเมื่อคุณไปถึงที่หมายแล้ว ตัวไนท์เองก็มีความกลัว แต่กลัวในที่นี้คือ กลัวที่จะไม่ได้เที่ยวในแบบของเรามากกว่า มันไม่ใช่การกลัวที่จะมาเที่ยวคนเดียว ยิ่งมาในเมืองที่คุณไม่คุ้นเคย คุณยิ่งต้องมีความกล้า กล้าที่จะถาม กล้าที่จะพูดคุย หรือแม้แต่กล้าที่จะลิ้มลองอาหารแปลกๆที่ดูน่ากิน แต่เรายังไม่เคยกิน อยากให้มองว่าสิ่งที่เกิดอยู่ตรงหน้าเป็นเรื่องท้าทาย ไม่มีอะไรที่จะขัดขวางความสุขของเราไปได้ ถ้าไม่เป็นเรื่องที่ผิดกฎระเบียบหรือวัฒนธรรมของประเทศนั้น ทำให้สุดความสามารถ เมื่อคุณย้อนมองดูตัวคุณเองแล้ว คุณจะต้องภูมิใจในตัวเองและไม่เคยคิดมาก่อนว่า คุณผ่านเหตุการณ์นี้มาได้อย่างมั่นใจ … คุณอาจจะมาที่นี้ครั้งเดียวในชีวิต ไม่ลองไม่รู้!!!
ความกลัวไม่ใช่ปัญหา ปัญหาอยู่ที่คุณกล้าที่จะพิชิตความกลัวนั้นหรือเปล่า?
7. ฝึกเตรียมความพร้อม พึ่งพาเทคโนโลยี
เพื่อนที่ดีที่สุดของคุณคือ เทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น Smart Phone, Wifi หรือแม้แต่ Google ทุกอย่างนี้จะไม่มีวันโกหกคุณ และเป็นที่ปรึกษาที่ดีในการหาข้อมูล อย่างรถไฟฟ้าที่มีมากมายในญี่ปุ่น ไม่รู้จะขึ้นสายไหนยังไง กดค้นหาใน Google จากสถานี A ไป สถานี B มีผลออกมาให้เสร็จสรรพ ทั้งเวลารถไฟเข้าชานชลา, หมายเลขชานชลา, ราคา และเวลาการเดินทาง สะดวกสบายไร้กังวล หรือแม้แต่การหาร้านอาหารอร่อยๆในสถานที่ที่เราไม่เคยไป กดเข้าแอพฯ Foursquare แล้วกดหาร้านอาหาร ผลจะแสดงร้านอาหารที่น่าสนใจใกล้ๆ มีคนให้คะแนนเอาไว้ ร้านไหนได้คะแนนเกิน 8 คะแนน พุ่งตัวไปกิน รับรองไม่ผิดหวัง
การเตรียมตัวเรื่องของแบตเตอรี่มือถือ, กล้องถ่ายภาพ, Wifi ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นในการท่องเที่ยว เพราะเทคโนโลยีเหล่านี้นี่แหละที่จะเป็นสิ่งที่เก็บรวบรวมความทรงจำและประสบการณ์ของคุณได้ดี
8. เข้าใจตัวเอง เข้าใจโลก
สิ่งที่จะทำให้คุณท่องเที่ยวสนุกและซึมซับสถานที่ที่คุณไปมากที่สุดคือ การเรียนรู้วัฒนธรรมและขนมธรรมเนียมประเพณี คุณต้องยอมรับว่า ในโลกใบนี้มีผู้คนมากกว่า 6,000 ล้านคน ซึ่งมีความแตกต่างทางสังคม-วัฒนธรรม รวมถึงภาษา การที่คุณพยายามเรียนรู้และทำความเข้าใจสิ่งเหล่านี้ ทำให้คุณเข้าใจสถานที่ที่คุณไปได้อย่างถ่องแท้และเมื่อคุณเข้าใจสิ่งต่างๆรอบตัวคุณ คุณจะยอมรับในความแตกต่างและหลากหลายของมนุษย์และวัฒนธรรมได้เป็นอย่างดี ความรู้สึกเปิดกว้างและพร้อมรับสิ่งใหม่ๆตลอดเวลา สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณเข้าใจคนรอบข้างมากกว่าที่เคยเป็น ไม่ตัดสินใครง่ายๆจากสิ่งที่เราเห็นภายนอก และทำให้คุณรู้ว่าตัวคุณเองมีเป้าหมายชีวิตต่อไปทางไหน
9. เที่ยวคนเดียว จบทริปฟินที่สุด
วันที่ไนท์พักอยู่ที่โอซาก้าแล้วต้องเดินทางมาเที่ยวเกียวโต 2 วัน เดินวันละ 30,000 ก้าว สิ่งที่บอกตัวเองอย่างแรกคือ ดีแล้วที่ไม่พาใครมาด้วย เพราะความสุขที่เราได้นั้นมันเกินจะบรรยายจริงๆ เราเลือกที่จะกัดฟันเดินต่อทั้งๆที่ตลอด 6 วันที่ผ่านมา สร้างความเหนื่อยล้าให้ไม่น้อย แต่เราก็ยังพาตัวเองไปสถานที่ที่เราอยากไป เดินดูเดินชมในสิ่งที่เราอยากเห็น ซึ่งสถานที่เหล่านี้อาจจะไม่ใช่ที่ที่คนอื่นอยากมาเยือนก็เป็นได้ (เดินเยอะขนาดนี้ พาเพื่อนมาเพื่อนคงโกรธแน่ๆ)
ฉะนั้นการเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวถือว่าเป็นการท่องเที่ยวที่มีความกังวลน้อย หรือพูดง่ายๆ NO DRAMA … คุณไม่ต้องค่อยกังวลว่า คนที่คุณมาด้วยอยากกินอะไร? เขาจะสนุกหรือเปล่าที่มาที่นี้กับเรา? แน่นอนว่าคุณเป็นตัวเองได้อย่างที่คุณต้องการ เหมือนที่กล่าวไปข้างต้นว่า เรามีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้ อยากไปไหนไป อยากทำอะไรทำ เก็บเกี่ยวช่วงเวลาแห่งความสุขให้เต็มที่ เพราะตอนนี้คือเวลาของคุณคนเดียว
10. คุณกลายเป็น “นักท่องเที่ยวที่ดี”
สมมติว่าคุณออกไปท่องเที่ยวคนเดียวในแถบยุโรปเป็นเวลาสัก 20 วัน รับรองว่า เมื่อมีใครถามคุณเกี่ยวกับการเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยว และการใช้ชีวิตในยุโรป คุณจะต้องเป็นที่ปรึกษาที่ดีได้อย่างแน่นอน เพราะการเที่ยวคนเดียวนั้น คุณจะต้องหาเส้นทางด้วยตัวเอง ต้องเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่เราไม่คาดคิด รวมถึงการเอาตัวเองไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ชีวิตการท่องเที่ยวที่คุณใช้ไปนั้น ไม่ใช่แค่ประสบการณ์หรือความทรงดีๆของตัวคุณเองเท่านั้น เพราะสิ่งนี้ยังเป็นแนวทางที่จะทำให้คนรอบข้างของคุณได้ออกเดินทางไปทำตามความฝันในแบบที่คุณเคยทำมาก่อน ถือว่าเป็นความสุขที่เราได้แบ่งปันเรื่องราวดีๆให้แก่กัน เป็นแรงผลักดันให้คุณกล้าที่จะออกเดินทางครั้งใหม่ ออกไปเรียนรู้สิ่งที่ไม่เคยพบเจอ และออกไปเก็บเกี่ยวความฝันให้ได้มากที่สุดเท่าที่คุณยังมีแรงไปถึง
ถ้าคุณไม่ตัดสินใจในตอนนี้ แล้วเมื่อไรที่คุณจะเริ่มทำ
ติดตามเพจผมได้ที่
https://www.facebook.com/NightPhoominOfficial
Instagram: @nightphoomin
Twitter: @nightphoomin