จากเกมส์ที่โด่งดังที่สุดมียาวนานกว่า 20 ปี สู่ภาพยนตร์แฟนตาซีฟอร์มยักษ์ที่หลายคนรอคอย
ภ่พยนตร์ Warcraft เป็นโปรเจคที่ถูกว่างเอาไว้ตั้งแต่ปี 2006 โดยมีไอเดียที่มีความแฟนตาซีในแบบ The Lord of the Rings แล้วถูกเลื่อนเรื่อยมา จนมีการเคสติ่งนักแสดงในปี 2013 และถ่ายทำในปี 2014 แน่นอนว่าข่าวที่ออกไปทำให้เกมส์เมอร์ทุกคนต่างรอคอยภาพยนตร์เรื่องนี้ สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้น อ้างอิงจากเกมส์ Warcraft: Orcs and Humans (1994) เป็นเกมส์ที่ได้รับความนิยมมากในยุคนั้น จนติดอันดับ 19 เกมส์ที่ดีที่สุดในปีนั้นอีกด้วย
เรื่องราวของ Warcraft: The Beginning เริ่มต้นจากกองทัพออร์คผ่านประตูมิติมายังเมืองมนุษย์ เกินการเข็นฆ่าจับผู้คนไปเป็นเชลย ซึ่งมนุษย์ไม่รู้จักออร์คมาก่อน ว่าเป็นตัวอะไร มีที่มาที่ไปอย่างไร ทำให้เกิดการหาคำตอบและการต่อสู้ระหว่างออร์คกับมนุษย์ โดยมีพ่อมดหรือผู้พิทักษ์คอยช่วยเหลือมนุษย์ แต่สุดท้ายเรื่องราวไม่ได้จบง่ายๆ เพราะสงครามครั้งนี้เป็นเพียงแต่จุดเริ่มต้นเท่านั้น!

บางส่วนของการใช้ CGI
ถึงแม้ว่า Waracraft จะมีความตั้งใจให้เป็นดั่งสงครามในตำนานแบบ The Lord of the Rings แต่โดยรวมที่ออกมา หนังมีความสนุกและดูง่ายกว่ามาก (อาจจะทำให้ใครหลายคนผิดหวัง) เพราะไม่มีภาษาภาพแบบสโลโมชั่น บิ้วความรู้สึก และไม่มีฉากสวยแบบเยิ้มๆ ภาพรวม CGI สีจะสดมาก ใช่สเปเชียลเอฟเฟคหนักมาก เล่าเรื่องแบบหนังแฟนตาซี ซึ่งผมคิดว่า ทีมงานคงได้ข้อสรุปว่า จะทำหนังให้ดูง่าย มีความซับซ้อนในเชิงสัญลักษณ์ เพื่อเข้าถึงคอเกมส์หรือเด็กๆที่ต้องการความสนุก หลายๆฉากสร้างจากเกมส์แล้วทำให้สมจริงมากขึ้น … แต่โดยความคิดส่วนตัว Warcraft ภาคนี้ เป็นเรื่องปูทางสู่เรื่องราวต่อไป(ซึ่งภาค 2 น่าจะเข้มข้นกว่านี้) สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับรายได้ทั่วโลกแล้วว่า Warcraft the movie จะได้ไปต่อเหมือนเกมส์ที่ทำออกมาหลายภาคหรือไม่?

ตัวอย่างงานดีไซน์ที่มาจากเกมส์
ด้านผู้กำกับโดย Duncan Jones ที่เคยผ่านงานหนังไซไฟฟอร์มเล็กอย่าง Moon, Source Code สำหรับหนังฟอร์มยักษ์ระดับ Warcraft จะตึงใจคอเกมส์และแฟนหนังได้หรือไหม ก็ต้องพิสูจน์ฝีมือหรือวัดดวงกันอีกที เพราะว่าหลายคนสนุกกับภาพยนตร์ และบางเสียก็รู้สึกผิดหวัง ส่วนด้านนักแสดงนั้น ใช้นักแสดงระดับกลางๆ(คงจ่ายค่าโปรดักชั่น CGI ไปหมดแล้ว ขืนใช้ตัวแพงคงลงทุนอีกหลาย)

Duncan Jones ผู้กำกับ
สุดท้าย ตลอด 123 นาทีของ Warcraft: The Beginning สร้างความบันเทิงแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก เป็นหนังแฟนตาซีที่ไม่ซับซ้อน เข้าใจง่าย ถึงแม้ว่าบางคนคาดหวังเป็นอย่าง The Lord of the Rings ก็ตาม แต่ในมุมของแฟนเกมส์อาจจะรู้สึกเต็มเต็มกับฉากต่างๆจากเกมส์คอมพิวเตอร์ถูกสร้างให้สมจริง ส่วนตัวผมให้ 7.5 คะแนน สำหรับ CGI แน่นๆและคนรักเกมส์
.
ตัวอย่าง Warcraft
.
ติดตามเพจผมได้ที่
https://www.facebook.com/NightPhoominOfficial
Instagram: @nightphoomin
Twitter: @nightphoomin