ปล่อยภาพปล่อยคลิป โปรโมทมาร่วมปี ถึงเวลาที่เทพนิยายปรัมปราจะร่ายมนตร์สะกดคนดูทั่วโลกอีกครั้ง จากที่เคยเป็นการ์ตูนคลาสสิคสู่นักแสดงตัวเป็นๆฉบับล่าสุด สำหรับ “ซินเดอเรลล่า” ปี 2015 ถือว่า เติมเต็มจินตนาการทั้งเด็กและผู้ใหญ่โดยสมบูรณ์ครับ (ได้ดู Frozen Fever ก็ทำให้หลายคนฟินแล้ว)

Disney กลับมาสู่ยุครุ่งเรืองแบบพุ่งแตกอีกครั้ง หลังทำรายได้จาก Frozen ถล่มทลาย ทำให้เพลง Let It Go ติดปากทั้งเด็กและผู้ใหญ่จนถึงทุกวันนี้ ตามมาด้วยการเอาเรื่องราวของเแม่มดใจร้าย Maleficent มาตีความใหม่ และล่าสุดกับ Cinderella ที่กระแสแรงตั้งแต่ดิสนี่ย์ประกาศว่าจะนำการ์ตูนเรื่องนี้มาสร้างเป็นภาพยนตร์ครับ มาพูดถึงตัวภาพยนตร์เลยดีกว่า งานโปรดักชั่นยิ่งใหญ่มาก ได้ Dante Ferretti มาควบคุม (ออสการ์ 3 รางวัล) หลายฉากสวยงามมากๆโดยเฉพาะพระราชวังดูสมจริงมาก ส่วนเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายได้ Sandy Powell มาดูแล (ออสการ์ 3 รางวัล) เป็นเสื้อผ้าสไตล์ยุค 1800 ถึงต้น 1900 ประณีตสุดๆ ฉะนั้นภาพที่คุณเห็นโดยรวมของหนังออกมาตระการตาแน่นอน รวมถึงผู้เขียนบท Chris Weitz ที่ถ่ายทอดความคลาสสิคปนอารมณ์ขัน ทำให้หนังสนุกน่าติดตามมากขึ้น ที่ขาดไม่ได้เลยผู้กำกับ Kenneth Branagh ซึ่งเขาเองเป็นทั้งนักแสดง, โปรดิวเซอร์ และผู้กำกับ ทำให้มีความเข้าใจตัวละครและถ่ายทอดออกมาได้ดี จังหวะการตัดต่อ ดำเนินเรื่องดีมากๆ ทำให้เราลุ้นไปด้วยในหลายๆซีนครับ

ด้านนักแสดงเริ่มจากตัวเอกของเรื่อง Lily James รับบทเป็นซินเดอเรลล่า ดูช่างใสไร้เดียงสาซะจริงๆ ถึงเธอเป็นที่รู้จักจากการแสดงซีรี่ส์ Downton Abbey มาก่อน เมื่อเธอโดดมารับแสดงหนังฟอร์มยักษ์แบบนี้ ทำให้คนดูอินไปกับเธอจริงๆ เพราะเธอไม่ได้ผ่านงานหนังฟอร์มใหญ่มา เลยไม่มีภาพจำนั้นเอง ส่วน Richard Madden ก็มาจากการแสดงซีรี่ส์ Game of Thrones ต้องยอมรับว่า บทเจ้าชายทรงเสริมเขามากๆ โดยสิ่งที่เป็นเสน่ห์ทำให้ใครหลายคนตกหลุมรักก็คือ นัยต์ตาสีฟ้าสดใจ ถ้าใครได้จองมองรับรองต้องละลายแน่นอน มาถึงอีกตัวละครเด่น แม่เลี้ยงใจร้าย รับบทโดย Cate Blanchett ฝีมือการแสดงไม่ต้องกังขาแล้วครับระดับนี้ เธอสื่ออารมณ์ของผู้หญิงที่มีความทะเยอทะยาน เย่อหยิ่ง และหัวโบราณ ออกมาได้อย่างดี ยิ่งส่งให้ซินเดอเรลล่าดูโดดเด่นและเป็นคนดีมากๆๆๆๆไปอีก สุดท้ายเทพธิดาแม่ทูนหัว แสดงโดย Helena Bonham Carter จากแม่มดร้ายๆใน Harry Potter มาเรื่องนี้เธอเป็นแม่มดใจดี ถึงแม้ว่าบุคลิคจะติ๊งต๊องนิดๆ(สมกับที่นางแสดง) ทำให้หนังเรื่องนี้ดูตลกน่ารักขึ้นมาเยอะเลยละครับ

ปกติพระราชวังของดิสนีย์จะต้องเป็นทรงสูงยอดแหลม แต่สำหรับเรื่องนี้ ถ้าสังเกตดีๆลักษณะบ้านของซินเดอเรลล่าจะเป็นลักษณะทรงสูงยอดแหลมเหมือนปราสาทมากกว่าพระราชวัง เพราะพระราชวังเป็นลักษณะอาคารตึกสไตล์ยุโรปชัดเจน ความรู้สึกของผมมันมีความหมายซ้อนอยู่ว่า ชีวิตในวัยเด็กของเธออาจจะเหมือนนิทาน มีจินตนาการและความฝัน แต่พระราชวังนั้นแหละที่เป็นภาพสะท้อนของชีวิตจริง

สุดท้ายนี้ การเอ่ยชื่อ “ซินเดอเรลล่า” ออกไปอย่างมั่นใจนั้น เป็นเครื่องเตือนใจว่า เธอจะรักฉันในสิ่งที่ฉันเป็นได้หรือไม่?

ปล. หนังเรื่องนี้มีความเป็นผู้หญิงมาก ถ้าผู้ชายแท้ๆไปดูอาจจะไม่อินนะ