ยุโรปไม่ไกล …​ แค่ไป “โฮจิมินห์” (รีวิวท่องเที่ยว 3 วัน 2 คืน)| Ho Chi Minh City Guide

Nightphoomin, night phoomin, ไนท์ ภูมินทร์, Line@, Line official, lifestyle, men's grooming, grooming, movie, ภาพยนตร์, หนัง, รีวิว, pantip, พันทิป, review, blogger, บล็อกเกอร์, บล็อกเกอร์ผู้ชาย

แอด Line ID: @nightphoomin (มี @ ด้วย)

คลิป พาเที่ยว “โฮจิมินห์” (เข้าใจง่าย)

.

hcmccover-vdo

ก่อนที่จะนำเที่ยวนครโฮจิมินห์แบบจัดเต็ม ผู้เขียนได้รวบรวมประวัติศาสตร์เวียดนามที่มีความเกี่ยวข้อง นำมาเล่าแบบเข้าใจง่าย เพื่อทำความรู้จักเมืองไซ่ง่อนในอดีตแห่งนี้ได้ดีขึ้นครับ

รู้จัก “นครโฮจิมินห์”

“โฮจิมินห์ซิตี้”(Ho Chi MInh City) หรือชื่อเดิมว่า “ไซ่ง่อน”(Saigon) ในยุคกลางสมัยปกครองแบบระบอบกษัตริย์ พื้นที่บริเวณนี้อุดมสมบูรณ์เพราะเป็นที่ลุ่มแม่น้ำโขง เหมาะแก่การเพาะปลูกเกษตรกรรม หล่อเลี้ยงมณฑลอันนัม (ที่พระทับของราชวงศ์อยู่บริเวณเวียดนามตอนกลางในปัจจุบัน)

ยุคศตวรรษที่ 18 เวียดนามได้ถูกฝรั่งเศสและสเปนรุกรานเรื่อยมา ไม่ว่าจะเป็นทางการค้าหรือการเผยแพร่ศาสนา ซึ่งนโยบายโดดเดี่ยวประเทศของจักรพรรดิเวียดนามหลายๆพระองค์ ทำให้เกิดการฆ่าสังหารบาทหลวงชาวยุโรปเป็นจำนวนมาก รวมถึงชาวเวียดนามที่นับถือศาสนาคริสต์โดนกระทำการรุนแรงจากภาครัฐเช่นกัน ในปีค.ศ.1856 เวียดนามได้สังหารมิชชันนารีชาวสเปน ทำให้ทางการสเปนร่วมมือกับฝรั่งเศสโจมตีเวียดนาม แม้ทางเวียดนามพยายามตั้งรับแต่ก็ไม่สำเร็จ ในปีค.ศ.1862 ฝรั่งเศสสามารถยึดครองไซ่ง่อนและทำสนธิสัญญาไซ่ง่อน ทำให้ไซ่ง่อนและเมืองอื่นๆโดยรอบเป็นของฝรั่งเศส สามารถทำการค้าและเผยแพร่ศาสนาได้อย่างเสรี

เกร็ดน่ารู้: ค.ศ.1861 (พ.ศ.2404) สมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงส่งคณะฑูตไทยเพื่อไปเจริญทางพระราชไมตรีกับประเทศฝรั่งเศส ที่กรุงปารีส โดยนำพระราชสาส์นและเครื่องราชบรรณาการไปถวายพระเจ้านโปเลี่ยนที่ 3 … จากเหตุการณ์นี้สมเด็จพระจอมเกล้าฯทรงใช้นโยบายผ่อนสั้นผ่อนยาว เพื่อประคับประคองสถานการณ์ลุกคืบของมหาอำนาจทั้งอังกฤษและฝรั่งเศสที่มีนโยบายล่าอาณานิคมในแถบเอเชียอาคเนย์ ซึ่งก่อนหน้านี้ในปีพ.ศ.2400Remove featured imageพระองค์ได้ส่งราชฑูตสยามไปเจริญสัมพันธไมตรีเข้าเฝ้าพระนางเจ้าวิคตอเรีย ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

800px-CaptureOfLang-Son

ทหารฝรั่งเศสสู้รบกับกองทัพเวียดนาม ภาพวาดปี 1885

ต่อมาในปีค.ศ.1873 เกิดการทะเลาะครั้งใหญ่ของพ่อค้าชาวฝรั่งเศสกับเจ้าหน้าที่เวียดนามที่ฮานอย ทำให้เกิดการโจมตีและบุกยึดฮานอย ทำให้จักรพรรดิตื๊อดึ๊ก กษัตริย์เวียดนามสมัยนั้น ต้องส่งราชฑูตเดินทางไปเจรจาลงนามในสนธิสัญญาที่ฝรั่งเศส เพื่อเป็นการยุติความขัดแย้ง โดยใจความสำคัญคือ ดินแดนโคซินไซน่า(เวียดนามใต้)ทั้งหมดเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส และต้องเปิดเส้นทางเดินเรือ รวมถึงการค้ากับเมืองฮานอยและเมืองอื่นๆทางเวียดนามตอนเหนือด้วย ในเวลาต่อมาชาวเวียดนามยังมีการทำร้ายบาทหลวงและยังส่งเครื่องบรรณาการไปจีน(เวียดนามเคยเป็นประเทศในอาณัติของจีนมาก่อน) โดยจีนหาทางโจมตีฝรั่งเศสเพื่อยึดเวียดนามคืน โดยมีการ้รบกันที่ตังเกี๋ย(ตอนเหนือของเมืองฮานอย เวียดนาม) ในปีค.ศ.1883 จักรพรรดิตื๊อดึ๊กสิ้นพระชนม์ กษัตริย์องค์ใหม่คือ จักรพรรดิเฮียบฮัว ต้องยอมรับความอ่อนแอและความพ้ายแพ้ ยอมทำสนธิสัญญาชื่อว่า อามองค์ ซึ่งถือว่า เวียดนามอยู่ใต้อารักขาของฝรั่งเศสหรือเป็นเมืองขึ้นอย่างสมบูรณ์ โดยทุกเมืองต้องมีข้าหลวงและทหารฝรั่งเศสประจำการ ฝรั่งเศสสามารถค้าขายได้อย่างเสรี รวมถึงเวียดนามยังต้องชดใช้ค่าปฏิกรรมสงครามให้แก่ฝรั่งเศสด้วย

il_570xN.818635615_9vua

ท่าเรือไซ่ง่อน

Image (2)

โบสถ์นอร์ธดามในยุคแรกๆ ก่อนที่จะถูกไฟไหม้ และมีการสร้างใหม่อย่างที่เห็นในปัจจุบัน

QpJfNkE

ไซ่ง่อน สมัยปกครองโดยฝรั่งเศส

ในปีค.ศ.1925 โฮจิมินห์ นักปฏิวัติชาวเวียดนามได้เริ่มก่อตั้งสมาคมหนุ่มปฏิวัติชาวเวียดนามขึ้นที่เมืองกวางตุ้ง ประเทศจีน จนปีค.ศ.1930 ได้รวบรวมพวกชาตินิยมและทำการต่อต้านฝรั่งเศส จนถูกปรามปรามและถูกเนรเทศในที่สุด ต่อมาช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โฮจิมินห์กลับสู่เวียดนาม เพื่อจัดตั้งพรรคชาตินิยมเวียดนามใหม่ หรือ เวียดมินห์ เพื่อการต่อต้านฝรั่งเศสและญี่ปุ่น

สงครามเอเชียบูรพาหรือช่วงสงครามโลกทางฝั่งเอเชีย กองทัพญี่ปุ่นได้แสดงแสนยานุภาพเดินทัพเข้าสู่อินโดจีน หลังจากฝรั่งเศสแพ้สงครามในยุโรป ส่งผลให้ฝรั่งเศสต้องลงนามในสัญญาร่วมกับญี่ปุ่น โดยให้ทางการญี่ปุ่นครอบครองอินโดจีน ดูแลด้านเศรษฐกิจ แต่การเมืองฝรั่งเศสยังดูแลอยู่ หลังจากนั้น 3 ปีถัดมา กองทัพญี่ปุ่นไม่ประสบความสำเร็จทางการทหาร ทำให้เปลี่ยนนโยบายยึดอำนาจทางการเมืองจากฝรั่งเศส และเพื่อควบคุมคนเวียดนามให้อยู่ในความสงบ ญี่ปุ่นจึงหันไปสนับสนุนจักรพรรดิเบาได๋ ซึ่งเปรียบเสมือนหุ่นเชิดให้ญี่ปุ่น จนถึงการประกาศเอกราชของเวียดนามในเดือนมีนาคม ค.ศ.1945 ถึงแม้ว่าเวียดนามจะได้รับอิสรภาพจากฝรั่งเศส แต่กลับสร้างความไม่พอใจให้แก่นักชาตินิยม โดยเฉพาะพรรคเวียดมินห์ที่นำโดยโฮจิมินห์ เริ่มทำการโจมตีเมืองฮานอยอย่างหนัก จนในเดือนสิงหาคมได้ยึดคืนฮานอยเอาไว้ได้ ถือว่ายึดครองเวียดนามเหนือได้สำเร็จ ส่วนจักรพรรดิเบาได๋ได้สละราชสมบัติให้อำนาจแก่เวียดมินห์เต็มที และพระองค์ทรงรับตำแหน่งที่ปรึกษาสูงสุดของพรรค ต่อมาในเดือนกันยายน โฮจิมินห์ได้ประกาศอิสรภาพต่อหน้าชาวเวียดนามกว่า 5 แสนคน

df2eb6e0dc65fe0cbab29b6c6da29849

ไซ่ง่อนปี 1948 ปกครองโดยรัฐบาลเวียดนามใต้

saigon_hotel_de_ville

City Hall ในอดีตฝรั่งเศสสร้างไว้เพื่อเป็นโรงแรม

ถึงแม้ว่าสงครามโลกครั้งที่ 2 ฝรั่งเศสจะแพ้สงคราม ทำให้เวียดนามใต้ที่เคยถูกครอบครองจากฝรั่งเศสต้องตกเป็นของอังกฤษ แต่ฝรั่งเศสยังทำการรบเพื่อจะกลับมาครอบครองเวียดนามใต้อีกครั้ง สงครามยืดเยื้อถึง 9 ปี จนในที่สุดฝรั่งเศสบึกยึดไซ่ง่อนและเมืองอื่นๆในเวียดนามใต้ไว้ได้ ต่อมาในปีค.ศ.1954 ฝรั่งเศสกับเวียดนามได้ทำสัญญาสงบศึกที่กรุงเจนีวา แบ่งเวียดนามเป็น 2 ส่วน คือ เวียดนามเหนือ และ เวียดนามใต้ โดยใช้เส้นรุ้งที่ 17 เหนือ ซึ่งมีผลให้ลาวและกัมพูชา แยกออกเป็นรัฐอิสระไม่ต้องขึ้นต่อฝรั่งเศสอีกต่อไป

image3792

โงดินห์เดียม ประธานาธิบดีเวียดนามใต้คนแรก / สภาพศพของเขา หลังถูก CIA สังหาร

ค.ศ.1955 สหรัฐอเมริกาได้ให้การสนับสนุนฝรั่งเศส โดยมีความเชื่อในการหยุดการแพร่ขยายของคอมมิวนิสต์ และล้มเลิกระบอบกษัตริย์ โดย โงดินห์เดียม ได้ดำรงตำแหน่งประธาธิบดีของเวียดนามใต้เป็นคนแรก การบริหารงานของ โงดินห์เดียม ที่สุดโต่งทางศาสนา เพราะเขานับถือศาสนาคริสต์ สั่งทำร้ายและเข่นฆ่าพระสงฆ์ แม่ชี และชาวพุทธในเวียดนามเป็นจำนวนมาก สร้างความเกลียดชังให้ประชาชนเป็นอย่างมาก จนเป็นที่มาของรัฐประหารยึดอำนาจในที่สุด ต่อมาสหรัฐฯยังให้การสนับสนุนให้นายพลเหงียนวันเทียว ขึ้นเป็นประธานาธิบดีเวียดนามใต้คนต่อไป ในช่วงเวลาเดียวกัน เวียดนามเหนือได้ขยายกองกำลังสู้รบแบบกองโจรกับทหารอเมริกา ยืดเยื้อยาวนานกว่า 18 ปี มีชาวเวียดนามและทหารอเมริกันเสียชีวิตราว 2 ล้านคน เมื่อรัฐบาลสหรัฐฯตัดสินในถอนกำลังออกจากไซ่ง่อน ทำให้เวียดนามเหนือบุกยึดไซ่ง่อนได้สำเร็จ นำกองกำลังเข้าสู่ทำเนียบประธานาธิบดีเวียดนามใต้ แล้วประกาศรวมชาติในวันที่ 30 เมษายน ค.ศ.1975 และเปลี่ยนชื่อ ไซ่ง่อน เป็น นครโฮจิมินห์ เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้นำการปฏิวัติ โฮจิมินห์ นั่นเอง (ซึ่งท่านเสียชีวิตในปีค.ศ.1969 ก่อนการรวมชาติสำเร็จ)

president-ho-chi-minh-giving-a-speech-at-a-conference-on-december-4-1953-799079-2

ประธานาธิบดีโฮจิมินห์ กล่าวสุนทรพจน์ที่ฮานอย ในวันที่ 4 ธ.ค. 1953

South Vietnamese forces follow after terrified children, including 9-year-old Kim Phuc, center, as they run down Route 1 near Trang Bang after an aerial napalm attack on suspected Viet Cong hiding places, June 8, 1972. A South Vietnamese plane accidentally dropped its flaming napalm on South Vietnamese troops and civilians. The terrified girl had ripped off her burning clothes while fleeing. The children from left to right are: Phan Thanh Tam, younger brother of Kim Phuc, who lost an eye, Phan Thanh Phouc, youngest brother of Kim Phuc, Kim Phuc, and Kim's cousins Ho Van Bon, and Ho Thi Ting. Behind them are soldiers of the Vietnam Army 25th Division. (AP Photo/Nick Ut)

ภาพสุดคลาสสิค เด็กวิ่งหนีตาย เหตุการณ์ช่วงสงครามเวียดนาม

30 Apr 1975, Saigon, South Vietnam --- North Vietnamese troops seize the presidential palace in Saigon. --- Image by © Jacques Pavlovsky/Sygma/CORBIS

30 เม.ย.1975 กองทัพเวียดนามเหนือบุกยึดทำเนียบประธานาธิบดีเวียดนามใต้ รัฐบาลเวียดนามใต้ย่อมแพ้ สิ้นสุดสงความเวียดนาม จนมาถึงการรวมชาติในที่สุด

จากประวัติศาสตร์ที่ทุกคนได้อ่าน(นี้เล่าแบบสรุปให้ฟังนะ) จะเห็นว่าเมืองโฮจิมินห์มีความสำคัญตั้งแต่ยุคโบราณ แต่ความเปลี่ยนแปลงจะเห็นได้ชัดเจนในช่วงที่ตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศสไปจนถึงสงครามเวียดนาม ซึ่งในช่วงเวลาที่ฝรั่งเศสยึดครองและใช้ไซ่ง่อนเป็นสถานที่บัญชาการหลักในการปกครองอินโดจีนทั้งเวียดนาม, กัมพูชา และลาว ส่งผลให้ไซ่ง่อนมีตึกอารามที่สร้างและออกแบบสไตล์ยุโรปหรือเรียกว่านีโอ-โคโรเนียลอยู่มากมาย และที่สำคัญปัจจุบันสถานที่เหล่านั้นยังคงได้รับการอนุรักษ์และบูรณะซ่อมแซมเป็นอย่างดี จากตึกอาคารสำนักงานของฝรั่งเศสเปลี่ยนไปเป็นไปรษณีย์กลาง, ที่ว่าการของเมือง และพิพิธภัณฑ์ เป็นต้น ซึ่งการมาเยือนโฮจิมินห์ ทำให้ผมรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของตึกอาคารและความสวยแบบสไตล์ยุโรปได้เป็นอย่างดี

 Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 45

ข้อมูลพื้นฐานเมืองโฮจิมินห์

ภาษาราชการ: ภาษาเวียดนาม

ภูมิอากาศ: มี 2 ฤดู คือ ฤดูฝน พ.ค.-พ.ย. , ฤดูแล้ง ธ.ค.-เม.ย. ช่วงท่องเที่ยวที่ดีที่สุดคือ ม.ค.-ก.พ.

ค่าเงิน: ดอง (VND) เปรียบเทียบ 10,000 ดอง = 15 บาท

เบอร์โทรฉุกเฉิน สถานกงสุลไทยในนครโฮจิมินห์: (08)39327637-8 หรือนอกเวลาราชการ 01666332071

การเดินทางไปเมืองโฮจิมินห์(จากกรุงเทพฯ)

  1. เครื่องบิน ใช้เวลาบินเพียง 1 ชั่วโมงครึ่ง มีทั้งสายการบิน Full Service และ Low Cost ให้เลือกมากมาย
  2. รถยนต์-รถทัวร์ เดินทางผ่านทางด่านปอยเปญสู่เมืองพนมเปญ กัมพูชา แล้วต่อจากพนมเปญสู่เมืองโฮจิมินห์ รถจอดที่ ถนน Pham Nhu Lao (ฟามงู๊เล๋า)

การเดินทางของผมทริปนี้คือ บินลงพนมเปญและบินกลับจากโฮจิมินห์ ฉะนั้นผมเดินทางไปโฮจิมินห์โดยรถทัวร์จากพนมเปญครับ ผมเขียนรีวิวการเดินทางไว้ที่ http://www.nightphoomin.com/phnompenh-to-hochiminhcity/

Processed with VSCOcam with hb1 preset

ที่พัก:

ผมแนะนำให้พักโรงแรมย่าน District 1 ซึ่งอยู่กลางเมืองโฮจิมินห์ ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ,​ ห้างสรรพสินค้า มีร้านอาหารมากมาย ถือว่าจะสะดวกสบายถ้าอยู่ในย่านนี้

การเดินทางในโฮจิมินห์:

  1. Taxi มีทั้งกดมิเตอร์และเหมา
  2. Uber ข้อดีคือ ราคาเท่าแท็กซี่ มีบริการเยอะครับ (ผมใช้ Uber ตลอด) … ไปใกล้ๆจ่าย 30 บาท
  3. มอเตอร์ไซค์ เช่ารายวัน 300-500 บาท/วัน หาได้ไม่ยาก โดยเฉพาะย่านถนนฟามงู๊เล๋า

แผนท่องเที่ยว 3 วัน 2 คืน

วันที่ 1:

  • เดินทางจากพนมเปญ-โฮจิมินห์ ช่วงบ่ายแก่ๆ
  • เดินทางเข้าโรงแรม ย่าน District 1
  • เย็น-ค่ำ เดินเล่นที่ Saigon Opera House และ Ho Chi Minh City Hall

วันที่ 2

  • ช่วงเช้า Saigon Opera House และ Ho Chi Minh City Hall
  • สายๆ โบส์ถนอร์ทเธอดาม-ไปรษณ์ย์กลางโฮจิมินห์ และ Ho Chi Minh City Museum
  • บ่าย พิพิธภัณฑ์สงคราม-Fine Art Museum
  • ค่ำ หุ่นกระบอกน้ำ-Night Club

วันที่ 3

  • เช้า ซื้อทัวร์ครึ่งวันไปเที่ยวอุโมงค์กูจี (ที่เที่ยวอันดับ 1 ของเมืองโฮจิมินห์ ควรไปสักครั้ง)
  • บ่าย เช็คเอาท์โรงแรม
  • ทำเนียบของอดีตประธานาธิบดีเวียดนามใต้
  • ตลาดเบนถั่น ดูของฝาก
  • ค่ำ เดินทางกลับกรุงเทพฯ

อินเตอร์เนท ซิมการ์ด

คุณสามารถซื้ออินเตอร์เนทซิมการ์ดที่สนามบิน หรือถ้าใครเดินทางมาทางรถแบบผม หาร้านขายโทรศัพท์มือถือใหม่ๆ จะมีซิมการ์ดขายครับ

ต้องใช้ Passport ในการลงทะเบียน ผมอยู่โฮจิมินห์ 3วัน เลือกแบบ 1.5 Gb ราคาประมาณ 300 บาทครับ

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 42

ร้านขายมือถือใหญ่แห่งหนึ่งในโฮจิมินห์ ถนน Pham Nhu Lao (ฟามงู๊เล๋า)

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 62

 

 

อุโมงค์กูจี ที่เที่ยวอันดับ 1 ของนครโฮจิมินห์

ก่อนที่ไนท์จะพาเที่ยวในเมืองโฮจิมินห์ ไนท์ขอพาทุกคนไปลงอุโมงค์กูจี สมรภูมิรบในสงครามเวียดนาม เป็นยุทธการสำคัญที่ทำให้ทหารเวียดกงและเวียดนามเหนือรบชนะทหารอเมริกัน ความอเมซิ่งของที่นี้คือ มีอุโมงค์ที่เป็นเครือข่ายเชื่อมโยงถึงกันถึง 250 กม. มีความถึงลงไปถึง 3 ชั้น มีทั้งห้องประชุม, โรงครัว, ห้องพยาบาล,​ห้องเก็บอาวุธ เป็นต้น …​ ทำไมที่นี้ถึงเป็นที่สุดของเมืองนี้ อ่านรีวิวและดูคลิปที่ >>> http://www.nightphoomin.com/cuchitunnels/

cu-chi-cover2

เที่ยวยุโรปไม่ไกล …​แค่ไป “โฮจิมินห์”

ช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ฝรั่งเศสได้ยึดเวียดนามเป็นเมืองขึ้น และใช้เมืองไซ่ง่อนเป็นที่บัญชาการหลักเพื่อบริหารอินโดจีน เป็นที่มาของตึกอารามสไตล์โคโลเนียลมากมาย และหลายๆแห่งสร้างพร้อมๆกับตึกอาคารสำคัญๆในเมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส อีกด้วย

Saigon Opera House (Ho Chi Minh Municipal Theater) *ด้านในขายตั๋วการแสดง

โรงละครขนาด 800 ที่นั้ง สร้างขึ้นในปีค.ศ.1900 วัสดุอาคารมาจากฝรั่งเศส ออกแบบโดย Eugène Ferret ได้รับอิทธิพลมาจากโรงละคร Palais Garnier(ค.ศ.1875) และซุ้มประตูทางเข้าได้รับอิทธิพลมากจากพิพิธภัณฑ์ศิลปะ Petit Palais(ค.ศ.1900) ทั้ง 2 ที่อยู่ที่เมืองปารีส ฝรั่งเศส … ถึงแม้ว่าไซ่ง่อนโอเปร่าจะถูกทำร้ายเสียหายและหยุดการแสดงไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากการรวมชาติเวียดนาม สถานที่แห่งนี้ได้ถูกบูรณะและใช้ทำการแสดงจนถึงปัจจุบัน นอกจากจะไปถ่ายรูปสวยๆแล้ว ยังสามารถซื้อบัตรเข้าชมการแสดงได้นะครับ

IMG_2213 2

Petit Palais และ Palais Garnier ที่ปารีส ต้นแบบ Saigon Opera House

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 60

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 44

.

จตุรัสศาลาว่าการนครโฮจิมินห์(Ho Chi Minh City Hall) *ไม่เปิดให้เข้าด้านใน

เดินจากไซ่ง่อนโอเปร่าเฮาส์ไม่ไกล จะพบกับจตุรัสศาลาว่าการนครโฮจิมินห์ มองเห็นอนุสาวรีย์โฮจิมินห์ ตั้งเด่นเป็นสง่า ซึ่งอนุสาวรีย์ในปัจจุบันถูกทำขึ้นใหม่ในปีค.ศ.2015 ทำด้วยบรอนซ์ ความสูงจากพื้นรวมฐาน 7.2 เมตร โดยด้านหลังเป็นอาคารศาลาว่าการถือว่าเป็นอาคารสไตล์ยุโรปที่สวยที่สุดของเมืองโฮจิมินห์ สร้างเสร็จในปี ค.ศ.1908 ในยุคนั้นอาคารนี้ถูกสร้างเป็นโรงแรมมีชื่อเดิมว่า Hôtel de Ville ออกแบบโดย Femand Gardes ในช่วงปีค.ศ.1954-1975 ยุคที่ปกครองโดยเวียดนามใต้ ใช้ชื่อว่า City Hall of Saigon และหลังจากการรวมชาติได้เปลี่ยนชื่อเป็นทางการคือ Ho Chi Minh City People’s Committee Building

ส่วนบริเวณด้านหน้าเป็นลานกว้างยาวตลอดแนวถนน บริเวณนี้ในเวลาเย็นจะเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของผู้คน ส่วนการมาท่องเที่ยวในจุดนี้ควรมาทั้งกลางวันและกลางคืน เพราะบรรยากาศแตกต่างกันมาก ซึ่งช่วงเย็นจะมีน้ำพลุดนตรี ย่านนี้สามารถถ่ายรูปสวยๆได้หลากหลายครับ

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 61

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 58

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 63

น้ำพุที่จตุรัสศาลาว่าการ เปิดตอนเย็นๆ

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 43

ช่วงพระอาทิตย์ตก ถ่ายรูปได้ท้องฟ้าแบบนี้

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 09

ศาลาว่าการในตอนกลางคืน เปิดไฟตลอดทั้งคืน

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 46

สถานที่พักผ่อนหย่อนใจของผู้คนในเมืองนี้รวมถึงนักท่องเที่ยว

โบสถ์นอร์ทเธอดาม (Notre-Dame Cathedral Basilica of Saigon)*ด้านในเข้าฟรีวันอาทิตย์

โบสถ์นอร์ทเธอดามที่ไซ่ง่อน ถือว่าเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการเผยแพร่ศาสนาคริสต์สู่ประเทศเวียดนาม ยังเป็นตึกอาคารสไตล์ยุโรปอาคารแรกๆของไซ่ง่อนก็ว่าได้ ใช้เวลาสร้างประมาณ 17 ปี แล้วเสร็จในปีค.ศ.1880 วัสดุทั้งหมดส่งมาจากฝรั่งเศส อิฐแดงที่เห็นถือว่าเป็นออริจินอล เป็นสีแดงแบบนี้ตั้งแต่สร้างเสร็จ ส่วนค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างราว 2,500,000 ฟรังค์(ในยุคนั้น) ในยุคแรกโบสถ์ยังไม่มีการสร้างหอระฆัง และได้ถูกสร้างเพิ่มขึ้นปีค.ศ.1895 เป็นเอกลักษณ์ที่งดงามของโบสถ์แห่งนี้ ที่สำคัญชื่อโบสถ์นั้น ตั้งโดยพระสันตปาปา Pope John XXIII ในปี 1960 (ที่นี้ไม่ธรรมดานะครับ)

สำหรับโบสถ์แห่งนี้ได้รับการยกย่องว่ามีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในเวียตนาม ด้านหน้าโบสถ์มีรูปปั้นขนาดใหญ่สีขาวเด่นเป็นสง่าของพระแม่มารี โดยในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากมาย

***หมายเหตุ: เทคนิคการเที่ยวโบสถ์นอร์ทเธอดาม

  1. การมาเยือนวันอาทิตย์ โบสถ์จะเปิดให้ชาวคริสต์ทำพิธีสวดมนต์ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปดูกระจกสีที่สวยงาม รวมถึงสถาปัตยกรรมด้านใน ซึ่งวันอื่นๆโบสถ์ไม่เปิดนะครับ
  2. เวลา 3 ทุ่มเป็นต้นไป บริเวณโดยรอบของโบสถ์จะเต็มไปด้วยวัยรุ่นหนุ่มสาวที่มานัดพบกัน มีอาหารแบบแบกับดินขายด้วย

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 64

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 47

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 53

ฝาผนังด้านนอกโบสถ์ถูกนักท่องเที่ยวเขียนชื่อ (ไม่ดีไม่ทำแบบนี้นะ)

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 54

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 68

สถาปัตยกรรมที่สวยงาม ด้านหลังโบสถ์

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 65

ด้านในเปิดให้เข้าชมเฉพาะวันอาทิตย์

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 66

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 67

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 12

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 11

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 70

ดึกๆบริเวณนี้เป็นแหล่งนัดพบของวัยรุ่น มีพ้แค้าแม่ค้ามาขายอาหาร อย่าง ข้าวเกรียบณวน

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 10

 

ไปรษณีย์กลางโฮจิมินห์ (Saigon Central Post Office) *ฟรี

ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมืองโฮจิมินห์ สร้างเสร็จในปีค.ศ.1891 ใกล้กับโบสถ์นอร์ทเธอดาม

มีการออกแบบและก่อสร้างสไตล์ฝรั่งเศส ควบคุมการออกแบบโดย Gustave Eiffel คนเดียวกับที่ออกแบบหอไอเฟล ในกรุงปารีส และยังได้รับการออกแบบตกแต่งอย่างงดงามด้วยกระจกสี เป็นไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเวียตนาม มีความโอ่โถงและอ่อนช้อย ถือว่าเป็นตึกสไตล์โคโลเนียลที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเวียดนาม ถ้าเข้าไปด้านในในตัวอาคารมีความโอ่อ่ากว้างขวาง มีการประดับภาพแผนที่ทางทะเลโบราณ ที่คลาสสิคสุดๆคือ ตู้โทรศัพท์ที่ยังคงสภาพไว้อย่างดี และในสุดของอาคาร บนฝาผนังติดภาพของ โฮจิมินห์ อดีตผู้นำประเทศ มีการบริการทั้งการส่งจดหมาย แสตมป์เพื่อการสะสม โปสการ์ด (ส่งโปสการ์ดกลับไทย ค่าสแตมป์ 17 บาท)

ปล. ซื้อโปสการ์ดแล้วส่งก็พอ ไม่ต้องซื้อของฝากที่นี้ เพราะราคาแพงกว่าตลาดเบนถั่นถึง 2 เท่า

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 50

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 57

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 24

แผนที่โคชินไซน่า ภาพเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี และตู้โทรศัพท์ที่ยังรักษาสภาพไว้อย่างดี

   Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 59

พิพิธภัณฑ์นครโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh City Museum) *ค่าเข้า 15,000 ดอง

ตึกอาคารสไตล์โคโลเนียล สร้างเสร็จปีค.ศ.1890 ออกแบบโดย Alfred Foulhoux สถานที่แห่งนี้ถูกสร้างให้เป็นศาลาว่าการแห่งโคชินจีน หรือเรียกง่ายๆว่า ศูนย์กลางบริหารประเทศที่ถูกยึดครองโดยฝรั่งเศสในแถบอินโดจีน และยังเป็นสภาผู้แทนองค์จักรพรรดิ์ (อย่างที่เคยเล่าไว้ข้างต้นว่า จักรพรรดิ์เวียดนามเป็นแค่หุ่นเชิดของฝรั่งเศสเท่านั้น)  ต่อมาหลังจากเวียดนามเป็นอิสรภาพจากฝรั่งเศส ไซ่ง่อนถูกบริหารงานโดยรัฐบาลเวียดนามใต้ ประธานาธิบิดี โงดินห์เดียม ได้เปลี่ยนศาลาว่าการแห่งโคชินจีนเป็นที่พักอาศัย (เพราะทำเนียบประธานาธิบดีเวียดนามใต้ถูกทิ้งระเบิดเสียหาย) แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น Gin Long Palace ซึ่งในปัจจุบันถูกเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงเรื่องราวความเป็นมาของนครโฮจิมินห์​ รวมถึงการจัดแสดงวิถีชีวิตตั้งแต่สมัยโบราณ จนถึงการต่อสู้ของชาวเวียดนาม

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 18

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 39

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 25

พิพิธภัณฑ์นครโฮจิมินห์ แสดงนิทรรศการตั้งแต่เวียดนามในยุคโบราณจนถึงเรื่องราวในปัจจุบัน

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 26

จัดแสดงศิลปะยุคอาณาจักรจามปา (ตอนกลางของเวียดนาม)

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 27

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 34  Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 37

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 41

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 36 Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 38

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 40

ระเบียบด้านนอกอาคาร มองเห็นตึกสูงที่สุดในโฮจิมินห์

ทำเนียบของอดีตประธานาธิบดีเวียดนามใต้ หรือ ทำเนียบอิสรภาพ  (Reunification Palace or Independence Palace) *ค่าเข้า 30,000 ดอง

บริเวณใจกลางเมืองโฮจิมินห์เป็นสถานที่ตั้งของทำเนียบของอดีตประธานาธิบดีเวียดนามใต้ อาคารทันสมัยหลังใหญ่นี้รายรอบด้วยสวนขนาดใหญ่มีน้ำพุอยู่ตรงกลาง สร้างขึ้นในปีค.ศ.1868 ออกแบบโดย Charles Hermite คนเดียวกับที่ออกแบบศาลาว่าการฮ่องกง เพื่อเป็นทำเนียบของผู้ว่าการชาวฝรั่งเศสที่เรียกว่า ทำเนียบนโรดม (Norodom Palace) ต่อมาในปีค.ศ.1945 หลังจากเวียดนามประกาศเอกราช และถูกกองทัพญี่ปุ่นยึดครอง ทางการญี่ปุ่นในใช้สถานที่แห่งนี้เป็นที่ทำการหลักของกองทัพ จนหลังจากญี่ปุ่นแพ้สงคราม ฝรั่งเศสได้กลับมาใช้ที่นี้อีกครั้ง ต่อมาในปีค.ศ.1962 สมัยที่ไซ่ง่อนปกครองโดยรัฐบาลเวียดนามใต้ ทำเนียบแห่งนี้ถูกเครื่องบินของเวียดนามใต้เองทิ้งระเบิดหวังจะสังหาร โงดินห์เดียม เพืื่อก่อรัฐประหาร แต่ไม่สำเร็จเพราะเขาไม่ได้พักที่นี้ในเวลานั้น และแน่นอนว่าทำให้ทำเนียบหลังนี้ได้รับความเสียหาย ในปีถัดมามีการสร้างอาคารขึ้นใหม่แทนที่โครงสร้างเก่าถูกทำลาย ออกแบบโดยโงเวียดทู (Ngo Viet Thu) สถาปนิคชาวเวียตนามผู้สำเร็จการศึกษาจากฝรั่งเศส และสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปีค.ศ.1966

Norodom_palace

ทำเนียบนโรดม ดีไซน์ดั้งเดิม ก่อนถูกระเบิดและได้รับการสร้างใหม่

ต่อมาในปีค.ศ.1975 สถานที่แห่งนี้ยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์สงครามเวียดนาม เมื่อกองกำลังคอมมิวนิสต์ได้เคลื่อนขบวนรถถังเข้าชนประตูเหล็กด้านหน้าของทำเนียบและโค่นรัฐบาลเวียตนามใต้ ถือว่าเป็นการสิ้นสุดสงครามเวียดนามอย่างสมบูรณ์  … โดยทุกวันที่ทำเนียบเดิมถูกเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชมได้ โดยทุกสิ่งทุกอย่างถูกทิ้งไว้ให้เสมือนสภาพเดิม ประกอบด้วยชั้นล่างเป็นห้องจัดเลี้ยง ห้องโถงใหญ่ซึ่งรัฐบาลเวียตนามใต้ประกาศยอมแพ้ และห้องเล็กถูกใช้สำหรับการบรรยายสรุปประจำวันทางทหาร ในระหว่างช่วงก่อนที่รัฐบาลเวียตนามใต้จะถูกโค่น

ส่วนชั้นที่สองเป็นห้องรับรองของประธานาธิบดีตรันวันเฮือง และห้องรับรองของประธานาธิบดีเทียว ซึ่งเพียบพร้อมด้วยห้องนอน ห้องรับประทานอาหาร และห้องสวดมนต์แบบคาทอลิค ชั้นสามเป็นห้องรับรองของภริยาประธานาธิบดี และชั้นที่สี่เป็นห้องฉายภาพยนตร์ส่วนตัวและลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งจากที่นี่จะสมารถเห็นทิวทัศน์อันงดงามของถนนเลหย่วน (Le Duan Boulevard) ได้เป็นอย่างดี  ด้านหลังทำเนียบเป็นสาธารณะกงเวียดวันฮวา (Cong Vien Van Hoa) ซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียวร่มรื่นสบายตา ด้านหน้าถนนเลหย่วน ถูกกั้นไว้ด้วยสวนสาธารณะใหญ่แห่งหนึ่งที่ร่มครึ้มด้วยไม้ใหญ่ บริเวณด้านหนึ่งใกล้กับถนนไทวันลุง (Thai Van Lung) สำนักงานของโครงการอพยพอย่างมีระเบียบของอเมริกัน (American Orderly Departure Program) ซึ่งตั้งอยู่ในปีค.ศ.1980 เพื่อให้ความช่วยเหลือเด็กลูกครึ่งอเมริกัน-เอเชีย และผู้ลี้ภัยทางการเมือง

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 04

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 55

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 06

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 03

ห้องประชุมรัฐบาลเวียดนามใต้

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 05

ห้องรับแขก

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 07

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 69

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 08

ดาดฟ้า สำหรับฮอลีคอปเตอร์

พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมืองโฮจิมินห์ (Ho Chi Minh City Museum of Fine Arts) *ค่าเข้า 10,000 ดอง

อาคารสีเหลืองสลับขาว ขนาด 3 ชั้น สถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียล มีความใหญ่โตกว้างขวางเป็นอย่างมาก แต่เดิมเป็นแมนชั่นหรูของ Mr.Hoa นักธุรกิจเชื้อสายจีนผู้ร่ำรวยเจ้าของโรงแรมและโรงพยาบาลในสมัยนั้น จนกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะในปี 1987 โดยกระทรวงวัฒนธรรมเวียดนาม ได้กำหนดให้เป็นการแสดงโบราณวัตถุ ศิลปะเวียดนามร่วมสมัย และศิลปะนานาชาติ โดยในสองชั้นแรกจะแสดงศิลปะหมุนเวียนจากศิลปินชาวเวียดนามเอง หรือจากศิลปินต่างชาติที่น่าสนใจ ส่วนบริเวณชั้นสามจะเป็นที่เก็บรวบรวมสมบัติของชาติที่มีมาตั้งแต่เมื่อครั้งเป็นอาณาจักรจามปา ในยุคศตวรรษที่ 7 ซึ่งมีทั้งงานแกะสลักหิน งานทองเหลือง เครื่องเคลือบ เครื่องปั้นดินเผา แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของศิลปะตั้งแต่ยุคอดีตจนถึงศิลปกรรมร่วมสมัยในปัจจุบัน

สำหรับผู้ที่รักงานศิลปะการมาเยือน Fine Arts Museum ถือว่าได้ความรู้เป็นอย่างมาก ร่วมรวมศิลปะของเวียดนามไว้มากมาย ทำให้เราเข้าใจความเป็นมาของสุทรียภาพของผู้คนที่อาศัยในแถบนี้ตั้งแต่ยุคโบราณจนถึงศิลปะที่มีความร่วมสมัยในทุกวันนี้ แน่นอนว่าตึกอาคารสวยๆแบบนี้ เป็นอีกสถานที่ที่คุณจะได้ถ่ายรูปสวยๆอีกทีหนึ่งครับ

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 31

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 51

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 16

สอนซิลปะเด็กในวันเสาร์-อาทิตย์

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 13

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 49

สถาปัตยปรรมสไตล์ยุโรปของตึกนี้

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 17

ตลาดเบนถั่น (Ben Thành Market)

ตลาดที่มีความเก่าแก่ตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 17 ในปีค.ศ.1870 ฝรั่งเศสบูรณะตลาดแห่งนี้ แล้วเรียกว่า Les Halles Centrales ถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของไซ่ง่อน และถูกสร้างใหม่ในปีค.ศ.1912 สไตล์ยุโรป มีความเป็นโมเดิร์นอย่างที่เห็นในปัจจุบัน เปลี่ยนชื่อเป็น Ben Thành Market โดยเอกลักษณ์คือ ประตูทางเข้าขนาดใหญ่ มีนาฬิกาอยู่ด้านบน ภายในมีสินค้าหลากหลายชนิด เช่น สินค้าพื้นเมือง ของที่ระลึก เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า กาแฟ และมีอาหารสด อาหารแห้ง เป็นต้น ซึ่งราคาถือว่า ถูกกว่าที่อื่นๆที่ขายกัน โดยเฉพาะสนามบิน(แพงมาก) อยากได้อะไรมาซื้อที่นี้เถอะ ลองต่อราคาพ่อค้าแม่ค้าที่นี้ดูครับ

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 56

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 02

ภาคพิเศษ: เที่ยวที่ไหนอีกดี

พิพิธภัณฑ์สงคราม (War Remnants Museum) *ค่าเข้า 10,000 ดอง

สถานที่แห่งนี้เคยเป็นสำนักงานของกองทัพสหรัฐฯ หลังจากที่เวียดนามรวมชาติได้สำเร็จในเดือนเมษายน ค.ศ.1975 ในเดือนกันยายน ปีเดียวกัน สถานที่แห่งนี้ได้จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับทหารอเมริกันและอาชญากรรมตัวแทน ในปัจจุบันเมื่อคุณเข้ามาในพิพิธภัณฑ์สงคราม จะเห็นอาวุธยุทโธปกรณ์ที่จัดแสดงไว้ด้านหน้าอาคาร เช่น เครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ รถถัง และลูกระเบิดที่ถูกใช้เมื่อครั้งสงคราม ส่วนในตัวอาคารจัดแสดงเรื่องราวความโหดร้ายในยุคสงครามเวียดนาม จัดแสดงผ่านภาพถ่ายมากมาย ถ่ายทอดถึงความเจ็บปวดของชาวเวียดนามได้เป็นอย่างดี การมาเยือนสถานที่แห่งนี้ ควรจะศึกษาประวัติศาสตร์สงครามมาเล็กน้อย จะทำให้คุณเข้าใจที่มาที่ไปมากขึ้น หลายๆภาพที่จัดแสดงเป็นภาพที่คลาสสิคหรือเป็นภาพถ่ายรางวัลระดับโลก นอกจากจะสะท้อนสิ่งที่ชาวเวียดนามต้องเจอในสงครามแล้ว ยังแสดงให้เห็นว่าทหารสหรัฐฯเองต้องเจอกับอะไรบ้างในสมรภูมิรบที่ตัวเขาเองไม่รู้จักมากก่อน รวมถึงหลังจากสงครามแล้วผู้คนมากมายได้รับผลกระทบอย่างไร เช่น คนพิการ และเด็กที่เกิดมาผิดรูปร่างเพราะสารเคมีจากสงคราม เป็นต้น

การมาเยือนพิพิธภัณฑ์สงคราม ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ชาวยุโรปให้ความนิยมเป็นอย่างมาก ถ้าคุณมาเยือนนครโฮจิมินห์ครั้งแรก ควรมาเยือนสักครั้ง เป็นแหล่งการเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ที่ควรค่าแก่การศึกษาครับ

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 33

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 23

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 30

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 19

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 14

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 52

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 22

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 15

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 20

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 28

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 29 Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 32

Bitexco Financial Tower

ตึกที่สูงที่สุดในเมืองโฮจิมินห์ (สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศเวียดนาม) มีทั้งหมด 68 ชั้น ประกอบด้วย ศูนย์การค้า, ออฟฟิต, ร้านอาหาร, บาร์ ถ้าใครอยากรับประทานอาหาร พร้อมชมวิวในมุมสูงของเมืองโฮจิมินห์ ต้องไปพลาดที่จะมาที่นี้ … ส่วนตัวไม่มีเวลาที่จะไปครับ ไว้ครั้งหน้า ไม่พลาดแน่นอน

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 35

ศูนย์การค้า

สำหรับใครที่อย่างเดินศูนย์การค้า แอร์เย็นๆ หรือซื้อของแบรนด์เนม ห้างต่างๆจะอยู่รอบๆ City Hall ในย่าน District 1 นอกจากนี้ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ มากมาย ก็อยู่ในย่านนี้เช่นกัน (พักแถวนี้ สบายครับ)

Ho chi minh city Guide โฮจิมินห์ รีวิว 01

สรุป: จากประวัติศาสตร์ในยุคเดียวกันในแถบอินโดจีน เมืองโฮจิมินห์ในปัจจุบัน ถือว่าเหลือร่องรอยสถาปัตยกรรมแบบยุโรปที่สร้างโดยฝรั่งเศสไว้มากที่สุด ถ้าเทียบกับกัมพูชา ที่ตึกอาคารยุโรปถูกทำลายในยุคเขมรแดง หรือประเทศลาวที่ไม่ค่อยมีตึกอาคามสไตล์ยุโรปไม่เยอะเท่าพนมเปญและไซ่ง่อน อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ไซ่ง่อนถือว่าเป็นเมืองศูนย์กลางบริหารงานของฝรั่งเศส ถึงแม้ว่าสงครามและเรื่องราวต่างๆได้ผ่านพ้นไปแล้ว เมืองโฮจิมินห์ถือว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อยู่ในเส้นทางการท่องเที่ยวระหว่างประเทศไทย, เสียมราฐ-พนมเปญ กัมพูชา และมุ่งสู่โฮจิมินห์ เวียดนาม นอกจากนี้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวเมืองอื่นๆของเวียดนามได้ไม่ยากครับ …​ หวังว่ารีวิวท่องเที่ยวนครโฮจิมินห์ที่ท่านอ่านจบนี้ จะเป็นประโยชน์ในการท่องเที่ยวอย่างมาก และผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เรื่องราวประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ท่านได้เรียนรู้ จะทำให้ท่านท่องเที่ยวอย่างสนุกและเข้าใจศิลปะวัฒนธรรมความเป็นมาได้อย่างดีครับ

 

ติดตามเพจผมได้ที่

https://www.facebook.com/NightPhoominOfficial

Instagram: @nightphoomin

Twitter: @nightphoomin

เวียดนาม, โฮจิมินห์, vietnam, ho chi minh city,ท่องเที่ยว,travel, รีวิว, pantip, พันทิป, review, blogger, บล็อกเกอร์, บล็อกเกอร์ผู้ชาย,บล็อกเกอร์ท่องเที่ยว, travel blogger



I'm the creator and producer of a tv show. Also, I work on social media marketing for artists, products and special projects. I love writing- photography and enjoy sharing them on my social media. I like the hit music, good movies, exercise and traveling. This is my blog. I hope you will enjoy it.