ผมโดนแท็กซี่หลอกที่วังเวียง, ลาว … เรื่องแย่ๆที่อยากบอกต่อ

โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน บทความนี้มาจากประสบการณ์ส่วนตัว ไม่มีเจตนาให้เกิดความขัดแย้งแต่อย่างใด ไม่ว่าชาติไหนก็มีคนดีไม่ดีครับ

พูดถึง “วังเวียง” ลาว ที่เที่ยวดียังไง ผมคงไม่ต้องพูดมาก เพราะรีวิวกันเยอะแล้ว แต่บทความนี้ผมจะเล่าประสบการณ์โดนคนขับแท็กซี่ในวังเวียง “ต้ม” ซะแล้ว!!!

When the Vang Vieng taxi deceived me.
vangvieng-05

ล่องห่วงยาง แม่น้ำซอง วังเวียง กิจกรรมยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาที่นี้

 

ผมไปเที่ยวลาวหลายครั้ง เราเจอน้ำใจคนลาว เจอแต่เหตุการณ์ดีๆมากมาย แต่ไปลาวรอบนี้ต้องขอคิดซะใหม่ โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวที่โตเร็วมากอย่าง “วังเวียง” ไม่ว่าจะเป็นที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ กิจกรรมผจญภัยต่างๆ รวมถึงผับบาร์ที่มีให้เต้นกันจนถึงตี 3 ตี 4 เป็นต้น

 

ผมเคยได้ยินประโยคหนึ่งจากคนไทยที่ไปทำงานที่ประเทศลาวหลายปี เขาบอกว่า คนลาวบางคนมองคนไทยว่า “คนไทยใจดี แต่โง่” … โดยเขาเล่าเพิ่มเติมอีกว่า เคยขับรถยนต์จอดรถรอสัญญาณไฟ แล้วอยู่ดีๆคนลาวขี่มอเตอร์ไซค์มาชน มีแค่แผลทะลอก(หมอตรวจ) แต่ทางคนขี่มอเตอร์ไซค์บอกว่าเขาแขนหักทำงานไม่ได้ เคลียร์กับตำรวจก็เข้าข้างทางฝั่งลาว สรุปต้องจ่ายค่าเสียหาย 25 ล้านกีบ หรือ ราวๆ 1 แสนบาท … สรุปต่อรองไปมาต้องจ่ายราวๆ 3 ล้านกีบ หรือ 1 หมื่นบาท

 

เรื่องที่เล่ามาขอยืนยันว่าได้ยินมากับหู ฟังแล้วก็รู้เอาไว้ … แต่ไม่คาดคิดว่าจะมา “โดนต้ม” ซะเอง!

เหตุการณ์ก็คือว่า ผมเดินทางท่องเที่ยวในภาคเหนือของไทย เชียงใหม่, เชียงราย ล่องเรือ Slow Boat มาหลวงพระบาง แล้วนั่งรถตู้ลงมาที่วังเวียง โดยวันที่ผมมาถึงวังเวัยง เป็นวันเสาร์ และมี Music Festival จัดขึ้นที่นี้  ซึ่งผมกับเพื่อนไม่รู้ข้อมูลนี้มาก่อน ทำให้โรงแรมใหญ่น้อยกว่า 100 แห่งภายในวังเวียงเต็มทุกที่ (ใครจะมาช่วงมีงานอีเว้นท์แบบนี้ จองโรงแรมล่วงหน้าด้วย) เราเดินหาโรงแรมอยู่ราว 2 ชั่วโมงก็ไม่ได้

รีวิว: Slow Boat 30 ชั่วโมง จาก เชียงของ สู่ หลวงพระบาง >>> http://www.nightphoomin.com/laosslowboat/

img_5470

 

vangvieng-07

เดินงงๆหาโรงแรมในวังเวียง 2 ชั่วโมง ไม่มีสักที

vang-vieng-09

Music Festival ที่วังเวียง โรงแรม 100 กว่าโรงแรมเต็มหมด คนเยอะบ้าคลั่งมาก

 

จนกระทั้งมีแท็กซี่(เราเจอเขาที่ท่ารถ Bus จุดลงรถตู้) ผ่านมาทักพวกเราบนถนน ซึ่งเราจำเขาได้ เขาอาสาจะช่วยขับรถไปหาโรงแรมให้เรา เราต้องมุ่งหน้าขึ้นทางเหนือไกลจากตัวเมืองอีกราว 10 กม. เพื่อหาโรงแรมที่น่าจะว่าง คนขับพาไปจอดแวะอยู่หลายที่ก็ไม่มีสักที่ จนไปเจออยู่ที่หนึ่ง ชื่อว่า “เรือนพัก วังลี-มีไช” ซึ่งส่วนของที่พักหลักได้เต็มไปแล้ว แต่เขายังมีห้องพักอีกเฟสหนึ่งจำนวน 4 ห้องที่ว่างอยู่ (อาจจะไม่มีรูปภาพประกอบ เพราะในเวลานั้น คิดอะไรไม่ออกจริงๆ) สภาพห้องพอรับได้ เตียง 6 ฟุต ที่นอนสภาพกลางๆ ห้องน้ำใช้น้ำบาดาล(แต่ก็สะอาดอยู่) เราตัดสินใจนอนที่นี้ 1 คืน ขอเอาชีวิตรอดในวันบ้าคลั่งของวังเวียงไปให้ได้ก่อน เพราะวันอาทิตย์คนคง Check-out ออกกันเยอะ เราค่อยกลับไปนอนในเมืองในคืนพรุ่งนี้

tubing-taxi

ลักษณะรถแท็กซี่ประมาณนี้ … รูปนี้ไม่ใช่รูปผมนะครับ เวลานั้นไม่ได้คิดจะถ่ายเลย (Not my picture)

vangvieng-08

พี่แกอาสาพาเราตระเวนหาโรงแรมนอน

 

ค่าห้องที่เราทราบคือ ห้องละ 50,000 กีบ หรือ 200 บาท คนที่มาคุยกับเราเป็นป้าๆมีอายุใช้ภาษาชาวเขา ไม่ได้พูดภาษาลาว ทางคนขับรถเลยเรียกหา “ลูกสาว” ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของเรือนพักนี้ให้มาคุยด้วย เรารอกันประมาณ 20 นาที จนลูกสาวคุณป้ามา ได้ความว่า ค่าห้อง 90,000 กีบ หรือ 360 บาท ต่อห้อง เพราะราคา 50,000 กีบ คือราคาแบบม่านรูด แค่คนแวะมาได้เสียกัน 3-4 ชม. แล้วออกไป ส่วนราคา 90,000 กีบคือราคาแบบค้างคืน … เราฟังเหตุผลก็รับได้ ด้วยวินาทีนี้ที่ไม่มีที่พักให้เลือกเลย สุดท้ายเราตกลงพัก 3 ห้อง (คนละห้อง)

 

เราขอบคุณคนขับรถแท็กซี่ที่ช่วยเรา เราเลยสอบถามราคาที่พาเรามาส่งที่พัก และพาเราออกไปกินข้าว รวมถึงรอรับเรากลับโรงแรม เขาคิดราคาเหมา 800 บาท ตอนแรกเรากะว่าจะต่อเขาสักหน่อย แต่เขาเสนอมาว่า รวมกับมารับในตอนเช้า เพื่อพาไปส่งในเมืองวังเวียง ราคาเหมา 1,000 บาท เราคิดว่าฟังดูเข้าท่า เลยตกลงไปแบบนั้น

vangvieng-03

วิวภูเขา เมื่อมองมาจากที่พัก

วันรุ่งขึ้น ดูเหมือนทุกอย่างจะราบรื่นดี จนเวลา 8 โมงเช้ามีผู้หญิงชาวลาวมาเคาะประตูห้องผม ในมือเธอถือเงิน 20,000 กีบ พร้อมด้วยกระดาษและปากกา … เธอแนะนำตัวว่าเธอคือ “เจ้าของตัวจริง” (อ้าวววววว…) ในใจเราคิดว่า “กูต้องจ่ายเพิ่มอีกหรือเปล่า ไม่เอานะ ไม่หักมุมซิ!” แต่พอคุยไปคุยมา ขีดๆเขียนๆบวกลบในกระดาษ อธิบายกันอยู่พักหนึ่ง แล้วเธอก็ยื่นเงิน 20,000 กีบมาให้ผม (งงซิครับ) สรุปว่า เงินที่เราจ่ายค่าห้อง ห้องละ 90,000 กีบ รวม 270,000 กีบ จริงๆแล้วค่าห้องของเราแค่ 150,000 กีบ (ห้องละ 50,000 กีบ) เธอให้ค่านายหน้าคนขับรถที่พาเรามา 100,000 กีบ(400 บาท) รวมค่าใช้จ่าย 250,000 กีบ เลยเหลือ 20,000 กีบ  เธอเอามาทอนให้ (ประเสิรฐแท้ๆแม่คุณ ช่างเป็นเรื่องดีๆที่เต็มไปด้วยน้ำตา … ที่กูโดนหลอก)

vangvieng-04

นามบัตรที่พัก กับเงิน 20,000 กีบ ที่เธอทอนให้ในตอนเช้า

 

ผมถามผู้หญิงเจ้าของที่พักนี้ว่า “ทำไมตอนแรกเขาบอก 50,000 กีบ แล้วถ้าค้างคืนราคา 90,000 กีบ” … เธอยืนยันว่า “ยังไงก็ราคาแค่ 50,000 กีบ … คนขับรถสั่งให้ผู้หญิงคนเมื่อวาน ให้บอกราคา 90,000 กีบ กับพวกเรา” แล้วเธอยังพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินจากไปว่า “เธอโดนเขาต้มแล้ว”อีห่า ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนกับหลังคาโรงแรมพังถล่มมาทับร่าง หน้าชาไปหมด คิดว่าจะบอกเพื่อนร่วมทริปนี้ยังไงดี

 

เมื่อเพื่อนตื่นกันแล้ว ผมตัดสินใจเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ฟัง ทุกคนต่างโมโห เพราะว่าเราจ่ายค่ารถที่พาเรามาหาที่พักให้แล้ว ก็ไม่ควรจะทำแบบนี้ เราเลยตัดสินใจจะคุยกับเขา ขอลดค่ารถจาก 1,000 บาท เป็น 800 บาท เพราะถือว่าเขาได้ค่านายหน้าจากที่พักไปแล้ว 400 บาท … พอคนขับรถแท็กซี่มารับเรา เราตัดสินใจพูดไปตรงๆ เขามีท่าทีไม่พอใจ และยืนยันคำเดิมว่า 50,000 กีบ คือค่าใช้จ่ายแค่คนมาได้เสียกัน ส่วน 90,000 กีบ คือค่าที่พักค้างคืน เป็นเรื่องเข้าใจผิด ซึ่งเราเถียงกันอยู่พักหนึ่ง สรุปว่าตัดปัญหาที่เราโง่เอง ไม่ถามราคาค่ารถให้ดีก่อนที่เขาจะพาเรามาหาที่พัก เขายังอ้างว่า ถ้าไม่ได้เขา เราก็คงหาที่พักไม่ได้ (จ๊ะ เป็นบุญคุณมาก!)

สรุป ผมท่องเที่ยวในลาวหลายครั้ง เรื่องค่ารถส่วนใหญ่จะเป็นราคามาตรฐานอยู่แล้ว เราเข้าใจในจุดนี้ แล้วจะไม่ได้ต่อคนขับ แต่การที่เราจะเดินทางไปในที่ที่ไม่ใช่เส้นทางหลัก หรือต้องเหมารถ เราสามารถสอบถามราคา และต่อรองราคาได้ ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ เราไม่ได้สอบถามราคาไว้ก่อน จนถึงที่พักแล้ว เขาจะโขกสับเท่าไหร่ก็ได้ แล้วยิ่งมาโดนต้ม ต้องจ่ายเงินเกือบ 2 เท่าในสิ่งที่ไม่ควรจ่าย เป็นอะไรที่น่าโมโหแล้วน่าเสียใจจริงๆ … นี่ไง “คนไทยใจดี แต่โง่”

vangvieng-06

เพื่อนใหม่ เจอกันระหว่างการเดินทาง เต้นด้วยกันจนตัวเปียก

 

ติดตามเพจผมได้ที่

Facebook: https://www.facebook.com/NightPhoominOfficial

Instagram: www.instagram.com/nightphoomin

Twitter: www.twitter.com/nightphoomin

วังเวียง, ลาว, รถแท็กซี่, ตุ๊กตุ๊ก, Vang vieng, laos, ท่องเที่ยว,travel, รีวิว, pantip, พันทิป, review, blogger, บล็อกเกอร์, บล็อกเกอร์ผู้ชาย,บล็อกเกอร์ท่องเที่ยว, travel blogger



I'm the creator and producer of a tv show. Also, I work on social media marketing for artists, products and special projects. I love writing- photography and enjoy sharing them on my social media. I like the hit music, good movies, exercise and traveling. This is my blog. I hope you will enjoy it.