ตั้งแต่ค่ายหนังประกาศชื่อของ James Wan ผู้กำกับดวงรุ่งที่มาแรงแห่งยุค(The Conjuring, Insidious) ว่าเขาจะมากำลัง Fast & Furious ภาค 7 ก็ทำให้แฟนหนังและแฟนผู้กำกับคนนี้ตั้งตารอคอยว่า จะเป็นอย่างไรกับการกำกับหนังแอ๊คชั่นฟอร์มใหญ่แบบนี้เป็นครั้งแรก และหนังเรื่องนี้ก็ดังขึ้นไปอีกเมื่อ Paul Walker เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์จนเสียชีวิต ทำให้หนังเรื่องนี้ต้องเลื่อนฉายจากปลายปี 2014 มาเป็นเดือนเมษายน 2015

ถ้าใครอยู่ในโลกโซเซียลจะรู้ว่าเกิดดราม่าคำวิจารณ์จากเพจดังๆ ทั้ง “ห่วยแตก” และ “ดีเทพ” … อ้าว… งงซิครับพี่น้อง สรุปมันจะดีหรือไม่ดี เอาเป็นว่า เราเองก็ต้องไปดูจะได้รู็ว่าเป็นยังไงกันแน่

ต้องทำความเข้าใจในแง่ของเบื้องหลังนิดนึงนะครับว่า การทำหนังภาคต้องที่มีฐานแฟนที่เหนียวแน่นและฟอร์มใหญ่ขนาดนี้ ย่อมเป็นเรื่องที่ท้าทายคนทำหนังมากๆ และผมเชื่อว่าระดับ James Wan ได้รับการไว้วางใจจากค่ายหนัง Universal แบบนี้แล้ว “มันก็ต้องมีอะไรดีบ้างแหละ” เรามาไล่กันเลยดีกว่า … เริ่มจากที่ผมเห็นเด่นๆเลยก็คงจะเป็นมุมกล้องที่ให้ความสดใหม่ต่างจาก Fast ทั้ง 6 ภาค หลายๆฉากทำให้เราหยุดหายใจลุ้นไปด้วยแบบไม่รู้ตัว มารู้ตัวว่าหายใจอยู่ก็ตอนที่ฉากนั้นๆผ่านไปแล้ว ฉะนั้นหนังเรื่องนี้อาจจะไม่เหมาะกับคนเป็นโรคหัวใจสักเท่าไหร่(แซวนะ) ซึ่งมุมภาพได้ Marc Spicer (Moulin Rouge, Crouching Tiger Hidden Dragon), Stephen F. Windon (Fast2, Fast6) มากำกับภาพ ซึ่งอย่างน้อยๆเขามีความเข้าใจหนังอยู่เป็นทุนเดิมและได้ James Wan กำกับด้วยแล้ว ถือว่าทำได้ดี และหลายๆฉากให้ความแปลกใหม่เป็นที่น่าจดจำอย่างฉาก รถล่มชูชีพ เป็นต้น

อีกเรื่องที่เด่นเลยคือ ดนตรีและเพลงประกอบ มันช่างระทึกใจมากๆ หลายๆซีนอยากจะลุกขึ้นมาเต้นโคโยตี้เลยทีเดียว เป็นองค์ประกอบของหนังที่ทำได้โดดเด่นมากๆ ซึ่งถือว่าเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของหนังซีรีส์ Fast ครับ

ส่วนด้านบทภาพยนตร์นั้น ก็ได้คนเขียนบทที่เขียนมาแล้วหลายภาคอย่าง Chris Morgan ซึ่งความเข้าอกเข้าใจตัวละครและสถานการณ์ดี สนุกน่าติดตาม หลายๆซีนเดายากว่าจะเกิดอะไรขึ้น หยุดหายใจไปหลายรอบเหมือนกันนะ ส่วนการแสดงของทุกคนถือว่าทำได้ดีผ่านมาตรฐาน หล่อ เท่ห์ กวนตีน ได้สมกับเป็น Fast ครับ และพี่จา พนม ของพี่น้องชาวไทย ถือว่าเปิดตัวในวงการฮอลีวู้ดได้ดี ถึงบทเขาจะไม่ได้โดดเด่นมาก และตัวละครของจาก็สร้างสีสันให้หนังเรื่องนี้ไม่น้อยเลยครับ

เรามาพูดถึงสิ่งที่อาจจะกวนใจใครหลายๆคนคือ ความโอเว่อร์ของตัวละคร เพราะมันแทบจะกลายเป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่ไปแล้ว คนอะไรจะเก่งอึดไม่เคยตาย แต่ก็อย่างว่า หนังขายความเก๋า ความเป็นแก๊งค์สเตอร์ มันก็ต้องแมนๆกันหน่อย จะให้ยิงปืนใส่กันอย่างเดียวมันก็ไม่ใช่ มันก็ต้องมีโลดโผนเตะต่อยกันเป็นธรรมดาครับ …​

โอเคมาถึงคำถามที่ถามตั้งแต่ต้น  ห่วยแตกไหม? ตอบเลยว่า ไม่! จะให้บอกว่า ดีเทพไหม? มันก็ไม่ขนาดนั้นครับ เพราะว่าหนังเป็นแอคชั่นมากๆ ไม่ได้ deep ดราม่าจนเรารู้สึกอิ่มเอมใจ มันก็ได้ความมันส์ความบันเทิงมากกว่าครับ

สุดท้ายอันนี้ไม่พูดถึงไม่ได้คือ Paul Walker ตอนจบถือว่าเป็นของแถมนะครับ มันอาจจะดูไม่เป็น Fast แต่ประทับใจแฟนๆแน่นอนครับ  … ขอจบเท่านี้ เขียนง่ายๆ ไม่ลำไยพร่ำเพ้อ ลองไปชมกันเองนะครับ ขอให้สนุกกับการดูหนัง